ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว รวบรวมทุกข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง social media จากเพจ โตโยต้า กรุงไทย Toyota Krungthai ให้ทุกโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ พร้อมเสิร์ฟถึงมือลูกค้า

ควรเลือกแบตเตอรี่รถยนต์แบบไหน ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

แบตเตอรี่ ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับรถยนต์ทุกคัน เพราะมันคือแหล่งพลังงานแรกที่จะเอาไว้สตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดและพร้อมเดินทางได้ และมีอายุการใช้งาน เมื่อแบตหมดก็ต้องเปลี่ยนใหม่ 

 ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้น แบตเตอรี่รถยนต์จึงถูกผลิตออกมาหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

  1. แบตเตอรี่แบบน้ำ หรือ แบตเตอรี่ธรรมดา คือแบตเตอรี่ที่หลายคนคุ้นเคยดีเป็นที่นิยมใช้มากที่สุด ราคาถูกสุด แต่ก่อนใช้งานต้องมีการเติมน้ำกรดลงไป แล้วชาร์จไฟเข้าไปก่อนการใช้งาน การเลือกใช้แบตเตอรี่ประเภทนี้ต้องดูแลเติมน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ 

      ข้อดี : มีความทนทานต่อการปะจุไฟเกินและคายประจุ มีอายุที่ใช้งานค่อนข้างนานและราคาถูก

      ข้อเสีย : ต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำกลั่นก่อนการใช้งานอยู่เสมอ อาจจะสัปดาห์ละครั้งขึ้นอยู่กับการใช้งาน และหากมีการเคลื่อนย้ายตัวแบตเตอรี่ต้องระมัดระวังสารละลายที่อาจรั่วไหลออกมาได้

  1. แบตเตอรี่แบบแห้ง คือแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรเลย ไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น สามารถปล่อยทิ้งไว้ในสภาพที่ไม่มีประจุไฟได้นานกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ ไม่ต้องชาร์จไฟเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่

      ข้อดี : เหมาะกับคนในยุคปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรถยนต์ ไม่ต้องเช็กบ่อยๆ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แบตไม่หมดแม้จะไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน

      ข้อเสีย : มีราคาค่อนข้างสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ และ แบตเตอรี่กึ่งแห้ง และตัวแบตฯมีรูระบายอากาศค่อนข้างเล็ก อาจอุดตันง่าย ส่งผลให้เกิดแรงดันภายในแบตเตอรี่ได้

  1. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง หรือ แบต MF คือแบตเตอรี่ที่ยังมีรูให้สามารถเติมน้ำกลั่นได้ เป็นแบตฯที่ยังต้องดูแลอยู่เสมอ อาจไม่บ่อยเท่าแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากน้ำกรดในแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นมีความเข้มข้นกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ ทำให้ระเหยได้ช้ากว่า

      ข้อดี : ไม่ต้องเช็กหรือเติมน้ำกลั่นบ่อยเหมือนแบตเตอรี่แบบน้ำ เพราะภายในมีการป้องกันการระเหยของน้ำกลั่นที่แน่นหนาพอสมควร

      ข้อเสีย : ถึงแม้จะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย แต่ก็ต้องหมั่นตรวจเช็กอยู่เสมอ อายุการใช้งานอาจไม่นานเท่าแบตเตอรี่แบบน้ำ

  1. แบตเตอรี่ไฮบริด คือแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนามาจากแบตเตอรี่แบบน้ำ ภายในประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับแคลเซียม แบตฯประเภทนี้จะมีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นธรรมดามาก แบตเตอรี่ไฮบริดมักใช้กับรถที่ใช้งานหนักๆ เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร หรือ รถรับจ้าง เป็นต้น

      ข้อดี : มีการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นธรรมดามาก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

      ข้อเสีย : มีราคาที่สูงมาก มักใช้กับรถขนาดใหญ่

      การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสม ควรขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้รถ เช่น หากต้องการแบตเตอรี่ที่ทนทาน ราคาถูก แบตเตอรี่แบบน้ำตอบโจทย์ที่สุด  ส่วนผู้ใช้รถที่ไม่ค่อยมีเวลามาเช็กบ่อยๆ ไม่เกี่ยงราคา ก็เหมาะกับแบเตอรี่แบบแห้งเพราะไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ไฟไม่หมดแม้ไม่ค่อยได้ใช้รถ อาจต้องเสียเงินมากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

การตั้งศูนย์รถ (Wheel Alignment) และการถ่วงล้อ(Tire Balance) คือ การปรับระบบการสั่นสะเทือนของรถในส่วนที่เชื่อมต่อกับล้อ รวมถึงการปรับมุมล้อที่สัมผัสพื้นถนนให้มุมต่างๆอยู่ในค่าปกติ ทิศทางถูกต้อง เพื่อให้ล้อรถซับแรงกระแทก และให้เราบังคับทิศทางของรถได้แม่นยำที่สุดขณะวิ่ง

ปกติแล้วการตั้งศูนย์ถ่วงล้อไม่มีกำหนดที่แน่นอน อาจทำการตั้งศูนย์ทุกครั้งที่นำรถเข้าตรวจเช็กสภาพก็ได้ หรือหากมีสัญญาณเตือนข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ควรรีบนำรถเข้าไปตั้งศูนย์ทันที

– ยางสึกหรอไม่เท่ากัน 

– พวงมาลัยกินไปทางซ้ายหรือขวา

– ขับรถตรงแต่พวงมาลัยไม่อยู่ตรงกลาง

– พวงมาลัยสั่นสะเทือน

การตั้งศูนย์ล้อรถต้องตั้งมุม 3 มุม ให้มีความสมดุล ได้แก่

มุมโท คือ มุมที่อยู่ในขอบเขตที่ทำมุมกับยางที่เอนเข้าด้านในหรือด้านนอกเมื่อมองจากด้านบน เป็นอีกหนึ่งมุมที่ต้องปรับเมื่อมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่

มุมแคมเบอร์ คือมุมด้านในหรือด้านนอกของยางเมื่อมองจากด้านข้าง หากมุมแคมเบอร์เกิดเอียงไปด้านในหรือนอกมากเกินไปก็จะต้องทำการปรับเปลี่ยน เพราะหากไม่ปรับตั้งศูนย์ถ่วงล้อโดยปรับมุมแคมเบอร์ให้กลับมาปกติ ก็อาจส่งผลต่ออุปกรณ์อื่นๆ ของรถได้

มุมแคสเตอร์ คือมุมที่ช่วยให้คุณบังคับพวงมาลัย ควบคุมเสถียรภาพและเลี้ยวโค้งได้อย่างสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเป็นมุมในการวางตำแหน่งล้อโดยมองจากด้านข้างของรถ หากมุมแคสเตอร์เป็นบวกจะทำให้แกนพวงมาลัยเอียงไปทางคนขับ แต่ถ้าเป็นลบ พวงมาลัยจะเอนเอียงไปทางหน้ารถของคุณ  

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลยางรถยนต์ที่ถูกต้องด้วยเหตุผลเดียวกับการตั้งศูนย์ล้อ ซึ่งนั่นก็คือการป้องกันการสึกของดอกยางก่อนเวลาอันควร ทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยถนอมเครื่องยนต์ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

เกิดเหตุฉุกเฉิน รถยางแตกกลางทาง ควรทำอย่างไร

รถยนต์ยางแตกเป็นเหตุฉุกเฉินที่ผู้ขับขี่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัวแน่นอน อาจทำให้ผู้ขับขี่เกิดอาการตกใจ ควบคุมสถานการณ์ได้ยากลำบากและอาจเกิดเป็นอุบัติเหตุอื่นๆตามมาได้  

รถยางแตกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นยางเสื่อมสภาพ ยางหมดอายุการใช้งาน มีรอยปริแตก ฉีกขาด เกิดจากการบรรทุกของหนักเกินไป ขนาดยางที่ไม่พอดี ใช้ยางกับรถผิดประเภท หรือเหยียบของมีคมโดยไม่รู้ตัว 

ผู้ขับขี่ควรทำการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายางแตกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นผู้ขับขี่ควรสังเกตอาการเบื้องต้นของรถก่อนยางระเบิด อาทิเช่น เกิดอาการสั่นสะเทือนโดยไม่ทราบสาเหตุ รถเริ่มบังคับได้ยากโดยเฉพาะจังหวะเลี้ยว อาการเหล่านี้บ่งบอกว่ายางรถกำลังร้อนจัด และเริ่มบวมออกมา หากรถมีอาการดังกล่าวควรรีบหยุดรถและตรวจเช็คทันที 

วิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉิน รถยางแตกกลางทาง ควรทำอย่างไร

– หากยางแตกกลางทางโดยไม่ทันตั้งตัว สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่นคงไว้ ห้ามดึงเบรกมือ เพราะจะทำให้รถหมุนเคว้งได้

– อย่าเหยียบเบรกกะทันหันเด็ดขาด ให้แตะเบรกเบาๆ และเปิดไฟฉุกเฉินเป็นสัญญาณเตือนรถที่มาข้างหลัง ว่ารถของเรากำลังมีปัญหา

– ประครองรถจนความเร็วลดลงในระดับที่ปลอดภัย และเข้าจอดข้างทาง

– เมื่อรถจอดในที่ปลอดภัยแล้ว ให้พิจารณาว่าควรเปลี่ยนยางอะไหล่เอง หรือโทรเรียกช่างมาดำเนินการให้ 

ยางแตกกลางทางอาจฟังดูน่ากลัว แต่ถ้ารับมือได้อย่างมีสติ ก็จะช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ไปได้แน่นอน อย่างไรก็ตามการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า ผู้ขับขี่ควรศึกษาวิธีการเปลี่ยนยางอะไหล่ และมีอุปกรณ์ซ่อมแซมกรณีฉุกเฉินติดรถไว้เสมอ

 

ฉลอง10ล้านคัน

Toyota Yaris ผลิตครบ 10 ล้านคัน จากการผลิตมากว่า 25 ปี

Toyota ฉลองToyota Yaris ผลิตครบ10 ล้านคัน จากการผลิตมากว่า 25 ปี

Toyota yaris เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 4 ด้วยยอดการผลิต10ล้านคัน จากการผลิตมากว่า 25 ปี และพึ่งฉลองยอดการผลิตครบ 10 ล้านคันไปเมื่อไม่นาน

Toyota yaris
Toyota yaris
รุ่นแรกเปิดตัวที่งาน Paris Motor Show เมื่อปี 1998 และเป็นรุ่นที่ได้รับรางวัล European Car of the Year ในปี 2000 ทำให้ได้รับความนิยมในตลาดยุโรปตั้งแต่ตอนนั้นเรื่อยมา
รุ่นแรกยังคงอยู่จนถึงปี 2005

สำหรับเจนที่ 2  YARIS TS เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะมากกว่าเล็กน้อยเปิดตัวในปี 2006
มี
การยกเครื่องใหม่ทั้งหมดให้มีขนาดเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นมาพร้อมขุมพลังเบนซิน 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 130 แรงม้า และเป็นรุ่นที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย โดยมีจุดเด่นอย่างด้านหน้ามีกระจังหน้าใหญ่ และโคมไฟเลี้ยวหลังสีขาว มี 4 รุ่นย่อย คือรุ่น J E G S และรุ่นพิเศษ TRD Sportivo

แหละยกระดับมาเป็นเจน 3
Toyota Yaris เจนที่ 3 ยกระดับขึ้นมีขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบ
และยังได้สร้างรถมาสำหรับสายซิ่งอย่าง Toyota Yaris GRMN โดยพัฒนามาจาก Yaris GR มีการปรับชุดแต่งทั้งด้านนอกและด้านใน เน้นการปรับลดน้ำหนักแต่เพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง รวมถึงขุมพลังเทอร์โบที่พัฒนาโดยทีม Toyota Gazoo Racing

มาถึงเจน 4 เปิดตัว ปี 2020 มีการออกแบบใหม่ เน้นให้มีความคล่องตัว
บนแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture GA-B และมีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เจน4 ได้ถือกำเนิดYaris GR  มาพร้อม Yaris Cross ใหม่ ซึ่งเพิ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็น World Urban Car ประจำปี 2022 ใน World Car Awards อีกด้วย

yaris