เรื่อง

การแข่งขันทักษะการบริการ ลูกค้าโตโยต้า ครั้งที่ 45 ประจำปี 2566

ขอแสดงความยินดีกับทีมโตโยต้า กรุงไทย ที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 6 ประเภทการแข่งขัน 

ในการแข่งขันทักษะการบริการ ลูกค้าโตโยต้า ครั้งที่ 45 ประจำปี 2566

  1. คุณ อนุสรณ์  ซาเฮาะ ประเภท ช่างเทคนิค ระดับสูง
  2. คุณ นฤกวิน ทวีสุข ประเภท ช่างเทคนิค พื้นฐาน
  3. คุณ ทัชชกร วรรณาสูตร์ ประเภท ผู้บริหารงานบริการ
  4. คุณ นันทพร ไทยงามศิลป์ ประเภท พนักงานลูกค้าสัมพันธ์
  5. คุณ ปวิตรา คล้ายพาลี ประเภท พนักงาน Call Center
  6. คุณ สิทธิพงษ์ อ่อนพลี ประเภท ผู้บริหารงานตัวถังและสี

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

 

เลือกแบบไหนดีระหว่าง ซ่อมศูนย์กับซ่อมอู่

การใช้งานรถยนต์เมื่อถึงเวลาเสื่อมอายุการใช้งาน จำเป็นต้องเอารถเข้าซ่อม แต่จะเลือกซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ ก็ต้องพิจารณาจากความสะดวกและความต้องการของเจ้าของรถ

การซ่อมทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้มกว่า มีเทคนิคดีๆในการเลือกมาฝาก

การซ่อมศูนย์

การซ่อมศูนย์คือการนำรถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ โดยช่างซ่อมที่เป็นมืออาชีพผ่านการรับรองมาตรฐานจากทางศูนย์บริการแล้ว หากต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ก็มั่นใจได้ว่าอะไหล่ที่ใช้จะเป็นอะไหล่แท้ของรถยนต์ยี่ห้อนั้น จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจในมาตรฐานทั้งด้านการบริการและคุณภาพของอะไหล่ที่จะได้รับ และการซ่อมศูนย์ยังรับประกันงานซ่อมในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย โดยสามารถนำมาเข้าศูนย์บริการได้ทันทีหากเกิดปัญหาในภายหลัง 

การซ่อมอู่

การนำรถเข้าซ่อมตามอู่ซ่อมรถทั่วไป อาจเป็นอู่ใกล้บ้าน อู่ที่คุ้นเคยหรือแนะนำกันมา การซ่อมอู่แตกต่างจากการซ่อมศูนย์คือเรื่องมาตรฐานการซ่อม ดังนั้นหากไม่ใช่อู่ที่เคยใช้บริการเป็นประจำ หรืออู่ที่มีช่างมีฝีมือก็อาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เช่น การซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐานหรืออะไหล่ไม่มีคุณภาพ รวมไปถึงการรับประกันหลังซ่อมยังสั้นกว่าศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ

สำหรับผู้ที่ต้องการนำรถไปรับบริการที่อู่รถยนต์ต่าง ๆ อย่าลืมสังเกตด้วยว่าเป็นอู่ประเภทใด 

– อู่ในเครือประกัน คืออู่ซ่อมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันที่ได้ทำประกันไว้ หากมีปัญหาสามารถนำมาซ่อมที่อู่ได้เลย

– อู่นอกเครือประกัน คืออู่ซ่อมรถทั่วไปที่ไม่ได้รับรองโดยบริษัทประกัน สามารถนำรถไปซ่อมได้แต่ต้องสำรองจ่ายก่อน และส่งเรื่องเคลมประกันทีหลัง

แม้ว่าการซ่อมอู่มีความรวดเร็วกว่าการซ่อมศูนย์ มีตัวเลือกเยอะสามารถเลือกอู่ที่ต้องการได้ในทุกพื้นที่ แต่ต้องเช็กให้ดีในเรื่องของคุณภาพอะไหล่และการบริการด้วย ซึ่งต่างจากศูนย์บริการที่มีมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขา

ดังนั้นหากต้องเลือกว่าจะซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ดีกว่ากัน ก็อาจต้องพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนั้นว่าเลือกซ่อมที่ไหนจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด ได้รถกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันเร็วที่สุด หากต้องใช้บริการซ่อมอู่ ควรเลือกอู่ที่มีประวัติเชื่อถือได้ รู้จักกันดี หรือผ่านการรับรองจากบริษัทประกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

ซ่อมด่วนคุ้มค่า กับบริการ ECO PACK SERVICE ด้วยอะไหล่ทางเลือก สำหรับรถหมดระยะรับประกัน

โตโยต้า ร่วมมือกับเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ อะไหล่ทางเลือก “ECO PACK SERVICE” สำหรับลูกค้าผู้ใช้รถยนต์โตโยต้าที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และหมดระยะรับประกันคุณภาพแล้ว ครอบคลุมงานบริการด้วยแพ็กเกจซ่อมด่วน 8 เมนูสำหรับรถยนต์ 7 รุ่น ด้วยบริการที่คุ้มค่าราคาสบายกระเป๋า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ พร้อมรับรองมาตรฐานการติดตั้งด้วยช่างเทคนิคมืออาชีพ และการรับประกันงานซ่อมจากโตโยต้า พร้อมให้บริการ ณ ศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่ 24 เมษายน เป็นต้นไป

พร้อมให้บริการสำหรับรถยนต์โตโยต้า 7 รุ่น
– รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล 3 รุ่น ได้แก่ Yaris , Vios , Altis

– รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น ได้แก่ Vigo , Revo , Fortuner , Commuter

มั่นใจกับแพ็กเกจบริการจำนวน 8 เมนู ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า

  1. บริการเช็คระยะพื้นฐาน (PM Lite)
  2. บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
  3. ไส้กรองอากาศ
  4. ไส้กรองแอร์
  5. ใบปัดน้ำฝน
  6. ผ้าเบรก
  7. โช้คอัพ
  8. ยาง

เฉพาะลูกค้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ECO PACK Service

แพ็กเกจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์แท้โตโยต้า พร้อมปะเก็นและไส้กรองอะไหล่ทางเลือก รับสิทธิ์เช็กเพิ่ม 38 รายการ

– ตรวจเช็กหมวดทั่วไป            10     รายการ

– ระบบปรับอากาศ                   3     รายการ

– ระบบหล่อเย็น                        3     รายการ

– ระบบบังคับเลี้ยว                    2     รายการ

– ระบบเครื่องยนต์                    9     รายการ

– ระบบเบรก                             3     รายการ

– ระบบช่วงล่าง                        4     รายการ

– ระบบส่งกำลัง                        4     รายการ

หมายเหตุ:

  1. จัดจำหน่ายในรูปแบบแพ็กเกจ (ราคาสุทธิ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
  2. ราคาปรับปรุงล่าสุด ณ เดือนเมษายน 2566
  3. ค่าบริการที่แสดงข้างต้น เป็นการประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากงานบริการจริง
  4. เพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการ กรุณานัดหมายล่วงหน้า หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการที่เข้าร่วมโครงการ
  5. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคา เวลา และเงื่อนไขการรับประกันฯ โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

เช็กได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยน บูชคันเกียร์

บูชคันเกียร์ คือตัวช่วยล็อกให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ หากบูชเกียร์หลวม หรือแตก จะทำให้เข้าเกียร์ยาก วิธีสังเกตคือ เกียร์มีอาการหลวม โยกไปมาได้มากกว่าปกติ ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ที่หน้าปัด เริ่มมีการคลาดเคลื่อน บูชคันเกียร์เสื่อมสภาพจะทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่งอื่นได้ หรือเกิดอาการเกียร์หลุด สำหรับอาการเกียร์หลุดในเกียร์อัตโนมัติเกียร์จะค้างที่เกียร์ถอยหลัง แม้จะเปลี่ยนเกียร์แต่รถก็ยังถอยหลัง ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา ส่วนใหญ่จะหลุดจากเกียร์ที่ขับไปยังตำแหน่งเกียร์ว่าง ต้องรีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คทันที

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

 

สัญญาณไฟหน้าปัดรถยนต์แจ้งเตือน มีความหมายอย่างไร

สัญลักษณ์ไฟแจ้งเตือนที่แสดงเป็นเครื่องหมายต่างๆ บนหน้าปัดรถยนต์ ผู้ขับขี่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของรถ ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งสัญลักษณ์ไฟแจ้งเตือนที่แสดงขึ้นมานั้นมีสีที่แตกต่างกัน เมื่อเราบิดสวิตช์กุญแจหนึ่งจังหวะ คือการแสดงเครื่องหมายต่างๆ บนหน้าปัดรถ และเมื่อสตาร์ทรถก็จะเห็นไฟต่างๆแสดงขึ้นมา 

ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มี 3 สี

  1. สัญลักษณ์ ไฟสีแดง  หมายถึง อันตราย ต้องหยุดรถและตรวจสอบหาความผิดปกติตามสัญลักษณ์ที่แสดงขึ้นมาทันที
  2. สัญลักษณ์ ไฟสีเหลือง หมายถึง สัญญาณการเตือน แต่รถยังสามารถใช้ได้ปกติ เช่น เตือนน้ำมันใกล้หมด
  3. สัญลักษณ์ ไฟสีเขียว หมายถึง ผู้ขับขี่กำลังใช้ระบบนั้นๆอยู่ เช่น ไฟเลี้ยว แต่บางรุ่นก็มีสีแตกต่างจากนี้ไปบ้าง

สัญลักษณ์ที่พบเจอได้บ่อยในรถทั่วไป บอกอะไรบ้าง และเราควรรู้หากเกิดปัญหาว่าควรแก้ไขอย่างไร 

1. สัญลักษณ์เข็มขัดนิรภัย

   เป็นสัญลักษณ์เตือนก่อนออกรถว่าผู้โดยสารยังไม่คาดเข็มขัด เมื่อคาดแล้วสัญลักษณ์ก็จะหายไป บางรุ่นมีเสียงเตือนด้วย

  2. สัญลักษณ์ถุงลมนิรภัย

    เป็นสัญลักษณ์เตือนว่าถุงลมนิรภัยมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ ให้รีบเข้าศูนย์ซ่อมทันที แต่ถ้าถุงลมนิรภัยไม่ได้มีปัญหา เมื่อสตาร์ทรถก็จะหายไปเอง

  3. สัญลักษณ์กาน้ำมันเครื่องสีแดง

    แปลว่าระบบน้ำมันเครื่องมีปัญหา ควรนำรถเข้าข้างทาง และเรียกช่างนำรถเข้าศูนย์ซ่อมทันที ห้ามขับต่อเด็ดขาด อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์   

    4. สัญลักษณ์เตือนแบตเตอรี่สีแดง

    สัญลักษณ์นี้ค่อนข้างอันตราย เพราะรถอาจมีความเสียหายได้หลายส่วน ควรหยุดรถและหาศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุดทันที ไม่ควรขับต่อ

    5. สัญลักษณ์ไฟ ABS

    ปกติสัญลักษณ์ไฟ ABS จะติดตอนสตาร์ทแล้วดับไป แต่ถ้ายังคงค้างอยู่แปลว่าตัวเบรกมีปัญหา ควรขับช้าๆและหาศูนย์ซ่อม

    6. สัญลักษณ์ไฟเบรกมือ

    เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงเมื่อเราดึงเบรกมือขึ้น เพียงแค่เอาเบรกมือลงก็จะหายไป แต่ถ้าไม่หายไปแสดงว่าอาจมีปัญหาที่่น้ำมันเบรกหรือส่วนอื่นๆก็ได้ 

                   7. สัญลักษณ์ไฟเตือนอุณหภูมิหม้อน้ำรถ

        -อุณหภูมิสีฟ้า ไม่อันตราย เพียงแค่หม้อน้ำรถเย็นเกินไป อาจทำให้สตาร์ทไม่ติด

        -อุณหภูมิสีแดง ถือว่าอันตรายมาก เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปหม้อน้ำอาจระเบิดได้ ไม่ควรขับต่อ 

     8. สัญลักษณ์เครื่องยนต์สีเหลือง

    เป็นสัญลักษณ์เตือนว่าเครื่องยนต์มีปัญหา ควรรีบเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อตรวจสอบ

     9. สัญลักษณ์กาน้ำมันสีเหลือง

    สัญลักษณ์นี้จะแสดงต่อเมื่อระดับน้ำมันเครื่องต่ำ ควรตรวจสอบและเติมน้ำมันเครื่อง หากยังไม่หายไป อาจเป็นเพราะมีการรั่วซึมจากการที่อุปกรณ์เสื่อมสภาพ

     10. สัญลักษณ์ปั้มน้ำมัน

     สัญลักษณ์เตือนว่าน้ำมันกำลังจะหมด ให้รีบหาปั้มเติมน้ำมันด่วน

     11. สัญลักษณ์ไฟตัดหมอก

     เป็นสัญลักษณ์ที่จะแสดงตอนเราเปิดไฟตัดหมอกหน้ารถ

      12. สัญลักษณ์ไฟหรี่

      เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงเมื่อเราเปิดไฟหรี่หน้ารถ

      13. สัญลักษณ์ไฟสูง

      เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงตอนเราเปิดไฟสูงหน้ารถ

สัญลักษณ์ต่างๆมีความสำคัญ อย่างน้อยควรหมั่นดูหน้าปัดว่ามีสัญลักษณ์ที่ผิดปกติแสดงขึ้นมาหรือไม่ เมื่อรู้เราจะได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ทันที ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่ผิดปกติกับรถของเรา