เรื่อง

EBD_Yaris_Ativ(2)

Yaris Ativ กับระบบเบรก EBD

EBD_Yaris_Ativ(2)

เรื่องของเบรก ระบบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ วันนี้นำสาระดีๆมาฝากกันเช่นเคย กับความรู้เรื่อง ระบบเบรก EBD ที่ผู้ขับขี่ต้องศึกษาไว้

ระบบเบรกแบบ EBD คืออะไร ?

ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก หรือชื่อย่อว่า EBD (Electronic Brake force Distribution) การทำงานของมัน มีหน้าที่คอยปรับสมดุลของแรงเบรกที่ล้อหน้าและล้อหลังให้เท่ากัน โดยมีหลักการทำงานประกอบด้วยชิ้นส่วนหลักคือ เซ็นเซอร์ที่ใช้วัดความเร็วที่ล้อหน้าและล้อหลัง ชุดวาล์วควบคุมแรงดันระบบไฮดรอลิก และปิดท้ายด้วยกล่องสมองกลคอมพิวเตอร์

ระบบเบรกแบบ EBD ทำงานอย่างไร ?

ในส่วนของการทำงานของ ระบบการควบคุมการกระจายแรงเบรกแบบ EBD  ระบบเบรกจะทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อผู้ขับขี่ทำการเหยียบเบรก โดยกล่องสมองกล (ที่ติดมากับรถ) จะนำค่าความต่างของความเร็วที่ล้อหน้าและล้อหลัง ซึ่งจะไม่ทำให้เบรกที่ล้อหลังล็อกจนเกิดท้ายปัด โดยเฉพาะการบรรทุกสัมภาระหรือผู้โดยสารจำนวนมาก น้ำหนักส่วนใหญ่จะลงที่ล้อหลัง ทำให้เบรกหลังต้องรับภาระมากขึ้นกว่าปกติ และเมื่อเหยียบเบรกขณะเข้าโค้ง น้ำหนักจะเทไปยังด้านนอกมากกว่าด้านใน เจ้า EBD จะช่วยแปรผันแรงดันน้ำมันเบรกส่งไปยังล้อด้านในให้เกิดความสมดุล จึงช่วยควบคุมรถให้ผู้ขับขี่เข้าโค้งได้ดีขึ้น แม้จะมีการเบรกขณะเข้าโค้งก็ตาม

ระบบเบรกแบบ EBD มีข้อดีอย่างไร ?

ระบบเบรก EBD

ถ้าพูดถึงระบบเบรกแบบ EBD นั้น แน่นอนว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยเรื่องการทรงตัวของรถในขณะขับขี่ ไม่ให้รถสะบัด หรือเกิดอาการเหวี่ยงเมื่อมีการเบรกด้วยความรุนแรง

คงได้เห็นถึงประโยชน์ของระบบ ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก หรือ EBD กันไปแล้ว ซึ่งทางโตโยต้า ได้ติดตั้งระบบนี้เพื่อเสริมความปลอดภัยในรถรุ่นใหม่แล้วด้วยไม่ว่าจะเป็น Toyota Yaris Ativ, Toyota C-HR และ รถโตโยต้า เกือบทุกรุ่นแล้ว ท่านสามารถเข้ามาทดลองขับเพื่อทดสอบระบบเบรกแบบ EBD ได้ที่ โตโยต้า กรุงไทย  ทั้ง 3 สาขา อาทิ สาขารามอินทรา สาขาเกษตร และสาขาตลิ่งชัน นอกเหนือจากบริการด้านการขายแล้ว ทางโชว์รูมยังมี ศูนย์บริการและอะไหล่ คอยให้บริการทุกท่าน


วิดีโอรีวิวที่เกี่ยวข้อง

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=xjk8uBzsrQI[/embedyt]


ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ

ระบบ A-TRC ใน Toyota Fortuner

ระบบ A-TRC

ระบบ A-TRC ใน รถยนต์โตโยต้า ที่ขับเคลื่อนแบบ 4X4

ระบบ A-TRC

 

สำหรับบทความในวันนี้ เอาใจขาลุยกันหน่อย กับระบบ A-TRC ระบบที่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรด หรือทางวิบาก ซึ่งเจ้าตัว A-TRC จะทำหน้าที่คอยช่วยขณะขับขี่ในทางวิบาก หรือในสภาพการเดินทางที่สุดโหด ไม่ให้ล้อรถหมุนฟรีจนเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบ A-TRC หรือ ( Active Traction Control ) หรือภาษาไทยเรียก เอ-แทรค ได้ถูกพัฒนาเพื่อรองรับการขับในพื้นที่ขลุขระ หรือพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางจำนวนมาก ทำงานด้วยตัวเซ็นเซอร์ โดยจะตรวจจับการหมุนของล้อรถยนต์ หากพบว่าล้อใดเริ่มสูญเสียแรงขับ และเสี่ยงที่จะหมุนฟรี ระบบจะส่งแรงเบรกไปสู่ล้อนั้นอย่างฉับไว และกระจายกำลังของเครื่องยนต์ไปสู่ล้อที่เหลือเพื่อให้รถมีแรงบิดเต็มกำลัง เท่ากับว่าผู้ขับจะสามารถใช้กำลังเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยปราศจากการสูญเปล่าจากอาการล้อหมุนฟรี และในระบบนี้ให้มาเฉพาะในตัวของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ รถโตโยต้า ในรุ่นที่มีการขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4X4 นั่นเอง

ท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบ A-TRC สามารถเข้าสอบถามเพิ่มเติม และทดสอบการใช้งานได้ที่โชว์รูมโตโยต้า กรุงไทย ทุกสาขา หากต้องการนำรถของท่านตรวจสภาพการใช้งานของระบบ A-TRC ของรถ เรามีบริการให้ท่าน รวมทั้งบริการทางด้านอื่นๆ อาทิ ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง


ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ

krungthai_tgbi_logo2

โครงการอาคารเขียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี

โตโยต้า กรุงไทย

      ประเทศไทยเริ่มเผชิญกับมลภาวะที่ถดถอยทุกวัน ดังนั้นกระแสการรักสิ่งแวดล้อมจึงเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง “อาคารเขียว” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอาคารสีเขียวในประเทศไทย เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดย อาคารเขียว ได้รับการยอมรับตามมาตรฐาน LEED จากสภาอาคารเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา

       บริษัท โตโยต้า กรุงไทย จำกัด จึงมุ่งหวังที่จะสานต่อกระแสอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการสร้างโชว์รูมรถยนต์และศูนย์บริการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตท่ามกลางสัมคมในเมือง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และปลอดภัยต่อธรรมชาติ พร้อมทั้งยังส่งเสริมการรักน้ำ รักป่า รักโลก ในแบบฉบับของโตโยต้า กรุงไทย เราวางแผนถึงคุณภาพชีวิตของพนักงาน และผู้ใช้บริการ ให้เป็นมิตรกับธรรมชาติมากที่สุด

พวงมาลัยรถยนต์

พวงมาลัยรถทำงานอย่างไร

พวงมาลัยรถโตโยต้า

ทำความรู้จัก! การทำงานของระบบพวง มาลัยรถยนต์
พบกันอีกเช่นเคยกับบทความสำหรับผู้รักรถยนต์ โดยในวันนี้ทางทีมงาน โตโยต้า กรุงไทย ก็ไม่พลาดนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์มาฝากเช่นเคย อุปกรณ์อีกหนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ เพราะถ้าไม่มีตัวนี้แล้ว รถของท่านอาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนก็ได้ แน่นอนซึ่งนั่นก็คือ พวงมาลัยรถยนต์ นั่นเองครับ พวงมาลัยรถยนต์ถือว่าเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในรถยนต์เลยครับ เพราะทำหน้าที่ควบคุมให้รถยนต์ไปตามทิศทางที่กำหนดและยังเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องทำความรู้จักมันให้มากๆเลยทีเดียว

ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญของระบบพวงมาลัย ได้แก่ พวงมาลัย, ขายึดแกนพวงมาลัย, แกนพวงมาลัย, หน้าแปลนพวงมาลัย, ยางข้อต่อ, กระปุกพวงมาลัย, แขนเกียร์พวงมาลัย, คันชักคันส่งกลาง, คันชักคันส่งข้าง , แขนดึงกลับ และกระปุกพวงมาลัย

รู้หรือไม่ครับว่า พวงมาลัยรถยนต์ในหลายๆค่ายที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นิยมใช้กันหลายแบบโดยจะมีรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น

แรคแอนด์พีเนียน ซึ่งเจ้าพวงมาลัยชนิดนี้ จุดเด่นก็คือ ต้นทุนไม่แพง เป็นระบบการบังคับเลี้ยวชนิดหนึ่ง แบบสะพานมีเฟือง กับเฟืองหมุนขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่น้อย แถมยังตอบสนองการขับขี่ไวอีกด้วย

แบบบอลล์แอนด์นัท พวงมาลับแบบนี้มักจะนิยมใช้ในรถกระบะบางรุ่น อย่างเช่น โตโยต้า รีโว่ (Toyota Revo) หรือรถบรรทุกยี่ห้อดังหลายๆเจ้า รถโดยสารขนาดใหญ่ โดยการทำงานของเจ้าพวงมาลัยนี้จะมีชุดวาล์วเพื่อควบคุมทิศทางน้ำมันไฮดรอลิกส์แบบโรตารี่ ควบคุมการทำงานด้วยแรงหมุนพวงมาลัยจากผู้ขับร่วมกับความฝืดของยางรถยนต์กับพื้นถนน ซึ่ีงจะอาศัยการบิดตัวของทอร์ชันบาร์สปริง ข้อดีของขวงมาลัยแบบ แบบบอลล์แอนด์นัท นี้ คือทนมากกว่าแบบ แรคแอนด์พีเนียน ครับ

พวงมาลัยแบบเพาเวอร์ เป็นพวงมาลัยชนิดสุดท้ายที่ถูกผลิตมาใช้ในท้องตลาดครับ ซึ่งปัจจุบันมีย่อยลงไปอีก 3 แบบ ได้แก่

1. แบบใช้น้ำมันอย่างเดียว เรียกว่า แบบไฮดรอลิกส์

2. แบบไฮดรอลิกส์ร่วมกับไฟฟ้า

3. แบบไฟฟ้าใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบไม่มีน้ำมันเพาเวอร์ สายพานหรือปั๊มเพาเวอร์คอยดึงกำลังจากเครื่องยนต์มาช่วย แต่จะเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดเข้ามาช่วยในการเลี้ยวและหมุนพวงมาลัยได้สะดวกยิ่งขึ้น ข้อดีของเจ้าพวงมาลัยนี้ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิิม อีกทั้งยังลดภาระเครื่องยนต์ไม่ต้องบำรุงรักษาตามระยะ แต่เมื่อมีปัญหาก็ต้องเสียค่าซ่อมแพงหูฉี่เลยทีเดียว

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์ ที่ทางทีมงานได้นำมาเสนอ คาดว่าคงจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการขับขี่ ส่งผลไปถึงความปลอดภัยของรถยนต์ พวงมาลัยรถยนต์ ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่รถยนต์หลายค่ายต่อหลายค่าย แข่งขันกันผลิตออกมาให้ใช้งานดีที่สุดและทันสมัยที่สุด เพื่อตอบโจทย์ของการใช้รถยนต์ในยุคนี้มากที่สุดครับ ทั้งนี้ รถยนต์โตโยต้า ของเราก็ให้ความสำคัญกับการผลิตพวงมาลัยรถยนต์ให้ออกมาตอบสนองความต้องการ และได้มาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานมากที่สุดเช่นกัน

นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการอื่นๆจาก ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย


โปรแรงๆ ขวัญใจ กระบะ Revo


ติดตามข่าวสาร โปรโมขั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ

บีบแตรรถ

การบีบแตรบอกอะไรได้บ้าง?

บีบแตรรถ บอกอะไรได้บ้าง ?

การบีบแตรรถ

พบกันอีกเช่นเคย กับเรื่องราว สาระดีๆ เกี่ยวกับยานยนต์ วันนี้จะพูดถึงเรื่องบนท้องถนนกันบ้างครับ เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยสงสัยกันไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ ว่าเสียงแตรรถยนต์ที่เราได้ยินกันบ่อยๆบนท้องถนนนั้นมีหลายแบบ ซึ่งบางทีอาจจะทำให้เกิดความน่ารำคาญไปบ้าง แต่การบีบแตรรถยนต์สามารถบอกเราได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว และที่สำคัญเจ้าแตรนี้หล่ะที่ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเลยก็ว่าได้ อย่ารอช้าเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าการแบบแตรแต่ละชนิดบอกอะไรเราได้บ้าง

1) การบีบแตรแบบเบาและเสียงสั้น หมายถึง การทักทายกันบนท้องถนน เช่น “สวัสดียามเช้าอากาศสดใส ฉันกำลังจะไปทำงานแล้วนะ” การบีบแตรในลักษณะนี้ ค่อนข้างจะสุภาพและเป็นมิตร ใช้วิธีการบีบแตรเบาๆและสั้นๆ ผู้รับรู้ก็จะได้รู้สึกสบายหูไปด้วยนั้นเอง

2) การบีบแตรแบบเสียงสั้นสองครั้ง หมายถึง การบีบแตรในลักษณะนี้ เพื่อเป็นการเตือนให้อีกฝ่ายทราบถึงตำแหน่งรถของเรา เพื่อระมัดระวังและลดการเกิดอุบัติเหตุด้วยนั่นเอง

3) การบีบแตรแบบเสียงดังยาว หมายถึง เป็นการบีบแตรที่ผู้ฟังอาจจะตกใจไม่มากก็เล็กน้อย แต่ข้อดีของมันคือการเร่งอีกฝ่ายให้ตื่นตัว ไม่เหม่อลอย ให้ระมัดระวังว่ากำลังจะเกิดเหตุอันตราย และอาจจะเป็นการช่วยเตือนให้เค้าตื่นจากอาการหลับในได้อีกด้วย

4) การบีบแตรแบบเสียงดังยาวซ้ำกันสองครั้ง หมายถึง การแบบแตรแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะผู้ที่ได้ฟังนั้นจะสามารถรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน การบีบแตรยาวๆซ้ำกันนั้นเป็นการเตือนว่ากำลังจะเกิดอุบัติเหตุแบบกะทันหัน ฉุกเฉิน นั้นเอง

อ่านกันไปแล้วสำหรับลักษณะการบีบแตรในแบบต่างๆ เชื่อว่าหลายคนต้องหันกลับมาสนใจสัญญาณเตือนชนิดให้มากขึ้นนี้แล้ว ไม่เปิดเพลงดังจนเกินไป ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรอบข้างขณะขับขี่ การบีบแตรก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ การบีบแตรรถยนต์อย่างพร่ำเพรื่อก็อาจเป็นดาบสองคมก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เช่นกัน รู้อย่างนี้แล้วทีมงานโตโยต้า กรุงไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ท่านใช้แตรอย่างมีสติ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมทาง เป็นมิตรกับเพื่อนร่วมทาง และยังขับขี่ปลอดภัย วันนี้หาเวลาซักนิดตรวจสอบสภาพรถของท่าน และสภาพการใช้งานแตรของท่านให้ใช้การได้อยู่เสมอ เพื่อถ้าเกิดเหตุด่วนขึ้นมาแตรก็จะช่วยเราได้มากเลยเช่นกัน ท่านสามารถเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ของท่านได้ที่ โตโยต้า กรุงไทย ทั้ง 3 สาขา ดังนี้ สาขารามอินทรา สาขาเกษตร และสาขาตลิ่งชัน ทางเรายินดีให้บริการอย่างครอบครัว

และนอกจากนี้ทางเรายังมีบริการอื่นๆเสริมอีกไม่ว่าจะเป็น : ศูนย์ซ่อมตัวถังและสีศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้ให้บริการให้กับท่านที่รักรถยานยนต์