เรื่อง

เคลือบแก้ว คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

เคลือบแก้ว หรือ Glass Coating คือการที่เรานำน้ำยาสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของ ซิลิกา (Silica Dioxide) ซึ่งเป็นสารประกอบของ Quartz มาเคลือบที่ผิวรถ เป็นลักษณะเหมือนฟิล์มแก้วบางๆปกป้องสีรถ และให้ความเงางาม

ข้อดีของการเคลือบแก้ว

  1. ทำให้รถเงางามขึ้น นวัตกรรมการเคลือบแก้ว เพิ่มความเงางามของชั้นฟิล์มบนสีรถ ทำให้รถของคุณดูสวย เงางาม และโดดเด่นมากขึ้น
  2. ลดรอยขนแมวรอยขีดข่วน น้ำยาเคลือบรถมีการพัฒนาให้มีค่าความแข็ง เพื่อป้องกันสีรถได้ค่อนข้างดี ทำให้ป้องกันรอยขนแมว รอยขีดข่วนได้มากกว่าปกติ
  3. ลดการเกาะของน้ำ การเคลือบแก้ว ทำให้น้ำเกาะสีรถได้ยากขึ้น สังเกตง่ายๆ คือ จะเห็นหยดน้ำบนชั้นสีรถ มีลักษณะกลมนูน และกลิ้งได้ เคลือบแก้วจึงเปรียบเสมือนเกาะป้องกันชั้นผิวรถ
  4. ช่วยป้องกันสิ่งสกปรก  อย่างเช่นเศษหิน ดิน ทราย หรือมูลนก เคลือบแก้วช่วยลดการเกิดคราบฝังแน่นบนสีรถ ทำให้รถดูใหม่
  5. ช่วยยืดอายุการใช้งานสีรถ การเคลือบแก้ว ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการชะล้าง แรงดันน้ำ ทำให้สีรถติดแน่น ช่วยยืดอายุความสดของสีรถ

ข้อเสียของการเคลือบแก้ว

  1. การเคลือบแก้วมีความยากในการทำ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์พิเศษ แต่การเคลือบแก้วควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำ มิเช่นนั้นอาจทำให้เคลือบสีรถไม่สม่ำเสมอ
  2. มีราคาค่อนข้างแพง เพราะต้องใช้อุปกรณ์น้ำยาเคลือบเเบบพิเศษ มีความทนทาน และเงางาม ยิ่งทำให้การเคลือบแก้วมีราคาสูง
  3. การเคลือบแก้ว ไม่ได้ป้องกันริ้วรอยเสมอไป เคลือบแก้วได้ช่วยลดรอยขีดข่วน รอยขนแมวได้ดี แต่หากเป็นรอยขีดข่วนหนักๆ ก็ไม่สามารถป้องกันได้

เคลือบแก้วไปแล้วควรดูแลรักษาอย่างไร

รถที่เคลือบแก้วไปแล้ว สามารถล้างรถลงแวกซ์เคลือบเงาได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขัดสีรถด้วยเครื่องขัดสีรถรอบสูง หรือการขัดด้วยน้ำยาขัดสีรถประเภทที่มีส่วนผสมของผงขัด หรือ Compond เนื่องจากมีโอกาสที่จะขัดทำให้เคลือบแก้วหลุดได้

กุญแจรีโมทรถยนต์

เมื่อกุญแจรีโมทรถไม่ทำงาน แก้ปัญหาได้อย่างไร

เมื่อรีโมทรถไม่ทำงาน แก้ปัญหาได้อย่างไร

รถยนต์รุ่นใหม่ๆในปัจจุบันเกือบทั้งหมดหันมาใช้กุญแจรีโมท เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย  รวมถึงมีฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่หากกุญแจรีโมทเกิดปัญหา หรือ มีปัญหาในการใช้งานจะทำอย่างไร

กุญแจรีโมท

สาหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับกุญแจรีโมท และ วิธีแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

1.รีโมทกดไม่ติด ไม่มีสัญญาณตอบรับ
หากรีโมทเกิดใช้งานไม่ได้ กดไม่ติดไม่มีเสียงหรือไม่มีสัญญาณไฟ อาจเกิดจากแบตเตอรี่อ่อนหรือแบตหมดให้ตรวจเช็คแบตเตอรี่ก่อน แก้ไขเบื้องต้นโดยการจั๊มป์แบตเตอรี่กับรถคันอื่น

2. กดรีโมทมีเสียงสัญญาณดัง แต่ไฟเลี้ยวไม่กระพริบ
หากกดรีโมทแล้วมีเสียงสัญญาณปกติแต่ไฟเลี้ยวไม่กระพริบและสตาร์ทรถไม่ได้ อาจเกิดจากถ่านรีโมทหมด แก้ด้วยการเปลี่ยนถ่านรีโมท บิดกุญแจไปที่สวิตช์ ON และกดรีเซ็ตค้างไว้ จนสัญญาณกันขโมยหยุดร้อง

3. กดรีโมทแล้วไฟเลี้ยวกระพริบ แต่สตาร์ทรถไม่ติด
สาเหตุนี้อาจเกิดจากเครื่องยนต์มีปัญหา แก้ไขด้วยการนำรถเข้าเช็กเครื่องยนต์ใหม่ก่อนสตาร์ทอีกครั้ง

4.กดรีโมทแล้วไฟเลี้ยวกระพริบแต่ประตูไม่ปลดล็อก
สาเหตุนี้ อาจเกิดจากมอเตอร์ที่ควบคุมการเปิด ปิดประตูมีปัญหา แนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการโดยตรง

5. กดรีโมทล็อกรถแล้วสัญญาณกันขโมยยังดังอยู่
อาจเกิดจากปิดประตูไม่สนิท แก้ไขง่ายๆด้วยการตรวจดูประตูทุกบานและปิดให้สนิท ก่อนกดล็อกด้วยรีโมท

สิ่งที่ทำให้กุญแจรีโมททำงานผิดปกติหรือมีปัญหา ส่วนมากมี 2 สาเหตุหลัก ๆ คือเกิดจากตัวเครื่องยนต์หรือเกิดจากตัวรีโมทรถ หากเกิดปัญหาจึงต้องเช็กทั้งที่ตัวเครื่องยนต์ และตรวจสอบดูว่ารีโมทรถถ่านหมดหรือเกิดขัดข้องหรือไม่

โช้คอัพรถยนต์

อาการบ่งบอกโช้คอัพเริ่มมีปัญหา

อาการที่บ่งบอกว่าโช้คอัพเริ่มมีปัญหามีอะไรบ้าง

โช้คอัพ

“โช้คอัพ” อุปกรณ์สำคัญที่ช่วยรองรับแรงกระแทก มีหน้าที่ช่วยควบคุมการดีดตัวของสปริง-แหนบ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ที่ต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

  1. มีคราบน้ำมันบริเวณซีลโช้ค
    ใช้กระดาษทิชชู่มาลองเช็ดดู หากมีคราบน้ำมันก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าซีลโช้คอาจรั่วอยู่

    2. หากลองกดหน้ารถให้ยุบตัว ให้สังเกตว่าตัวรถเด้งๆขึ้นลงเร็วๆติดกันหรือไม่ หากรถมีอาการเด้งขึ้นลงติดๆกันแสดงว่าโช้คเสื่อมสภาพแล้ว

    3. ถ้ารูปทรงของโช้คผิดไปจากเดิมหรือเรียกว่า โช้คคด
    จะทำตัวโช้คทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพซึ่งส่งผลในการขับขี่

    4. สังเกตเวลาขับรถเข้าโค้งหรือขึ้นลูกระนาด
    หากรถมีอาการโยนหรือเหวี่ยงมากแสดงว่าโช้คไม่มีการซับแรงที่ดีแล้

    5. เมื่อรถผ่านทางขรุขระหรือตกหลุม
    สังเกตโดยการฟังเสียงจากโช้ค หากโช้คไม่มีการซับแรงที่ดีจะมีเสียงกระแทกดังมากบางทีอาจรับรู้ได้จากแรงสะท้านบนพวงมาลัยเลย

    ***อย่าลืมไปเช็กโช้คอัพของรถที่รักกันนะคะ โช้คอัพเมื่อใช้งานไปนานๆย่อมเสื่อมสภาพ เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกและน้ำหนักตลอดเวลา

 

ข้อควรทราบเกี่ยวกับ กรองน้ำมันดีเซล รถโตโยต้ารุ่นใหม่

ข้อควรทราบเกี่ยวกับ กรองน้ำมันดีเซล รถโตโยต้ารุ่นใหม่

ข้อควรทราบเกี่ยวกับ กรองน้ำมันดีเซล รถโตโยต้ารุ่นใหม่

กรองน้ำมันดีเซล

โตโยต้าได้พัฒนาไส้กรองน้ำมันดีเซลประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนตามระยะเหมือนรุ่นเก่าๆ ทั้งนี้จะเปลี่ยนหากพบไฟเตือน ไฟแสดงสถานะ หรือ ข้อความเตือน ปรากฏขึ้นบนมาตรวัด ตามที่แสดงในรูปด้านล่างนี้ (ให้นำรถยต์เข้ารับบริการ ณ ศูนย์บริการโตโยต้า ทั่วประเทศที่ท่านสะดวก)

ซึ่งลักษณะการเตือนในรถแต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับรุ่นของมาตรวัด สำหรับรถบางรุ่น เช่น รุ่นที่ไม่มีจอแสดงข้อมูลรวม ถ้าไปเตือนกรองดีเซลกะพริบ และเสียงเตือนดัง แสดงว่ามีน้ำเจือบนอยู่ในชุดกรองน้ำมันจำนวนมาก ให้รีบจอดรถแล้วถ่ายน้ำทิ้งโดยด่วน (ดูวิธีในคู่มือการใช้รถ) หรือ นำรถเข้าศูนย์บริการใกล้ที่สุดโดยเร็ว อย่าฝืนขับรถต่อไปไกลๆ โดยที่ไฟเตือนกะพริบ เพราะอาจทำให้ระบบเชือเพลิง เสียหายได้

ภาพตัวอย่างไฟเตือนสำหรับมาตรวัดที่ไม่มีจอแสดงข้อมูลรวม การแจ้งเตือน กรองน้ำมันดีเซล สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ภาพตัวอย่างไฟเตือนสำหรับมาตรวัดที่ไม่มีจอแสดงข้อมูลรวมสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

หมายเหตุ

  • ไฟกะพริบ : ถ่ายน้ำมันทิ้ง
  • ไฟติดค้าง : เปลี่ยนไส้กรอง
กรองน้ำมันดีเซล

กรองน้ำมันดีเซล

ข้อมูลอ้างอิงจากคู่มือรถยนต์โตโยต้า สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม จากคู่มือการใช้รถ

พาไปลองขับรถโตโยต้า Toyota C-HR ตัว Hybrid “ช่วงล่างแน่น ประหยัดน้ำมัน”

พาไปลองขับรถโตโยต้า Toyota C-HR ตัว Hybrid “ช่วงล่างแน่น ประหยัดน้ำมัน”