ดิสก์เบรก กับ ดรัมเบรก แบบไหนดีกว่ากัน
ระบบเบรก (Break) หรือระบบห้ามล้อ คือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับความปลอดภัยของรถยนต์ เนื่องจากเป็นระบบที่ช่วยในการบังคับและควบคุมยานพาหนะให้สามารถชะลอความเร็วลงได้ โดยเบรกได้ผ่านการพัฒนาและทดสอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหลายครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
ระบบเบรกที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันมี 2 แบบ
ดรัมเบรก (Drum Brake)
เป็นระบบเบรกชุดแรกๆ ที่มีการพัฒนามา แม้ว่าปัจจุบันดรัมเบรกจะไม่ค่อยมีการใช้งานกับยานยนต์สมัยใหม่เท่าใดนัก แต่ยังมีให้เห็นอยู่บ้างในรถเก๋งหรือรถกระบะบางรุ่น
ดรัมเบรกมีลักษณะเด่นที่สำคัญคือ ผ้าเบรกที่มีรูปร่างโค้งสองอัน เรียกว่า ฝักนำและฝักตาม โดยผ้าเบรกทั้งสองจะถูกแม่ปั๊มดันให้ไปยึดติดกับด้านในของฝาครอบเบรก ซึ่งจะถูกดันอีกทอดหนึ่งให้ไปติดกับล้อรถ ส่งผลให้ความเร็วรถค่อยๆชะลอจนหยุดอยู่กับที่ ปัจจุบันดรัมเบรกนิยมใช้ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยมีการติดตั้งทั้งสี่ล้อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการหยุดรถ รวมถึงรถรุ่นใหม่บางยี่ห้อที่นิยมติดตั้งดรัมเบรกบริเวณล้อหลัง
ข้อดี
– ไม่ต้องใช้แรงเหยียบมาก
– มีกำลังหยุดรถสูง เหมาะกับรถที่บรรทุกของหนัก
– มีระบบปิดมิดชิด ไม่ต้องดูแลรักษาบ่อย
ข้อเสีย
– มีความร้อนสะสมสูง
– ไม่ค่อยแม่นยำ เพราะตอบสนองค่อนข้างช้า
– ระบายน้ำได้ไม่ค่อยดี
– ดูแลรักษายาก
ดิสก์เบรก (Disk Brake)
เป็นระบบเบรกที่นิยมใช้ในยานยนต์อย่างรถเก๋งหรือรถกระบะ โดยหลักการทำงานสำคัญคือ เมื่อมีการเหยียบเบรก แม่ปั๊มจะดันผ้าเบรกไปหนีบกับจานเบรกที่ติดกับกงล้อ ทำให้ยานยนต์ค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงจนหยุดลงในที่สุด ดิสก์เบรกติดตั้งอยู่บริเวณสองล้อหน้า ส่วนยานยนต์ที่ต้องใช้ความเร็วมากอาจมีการติดตั้งดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อเพื่อเพิ่มความสามารถในการเบรกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรถแข่งที่ต้องเร่งความเร็วในการเข้าโค้ง สมรรถนะในการเกาะพื้นถนนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความปลอดภัยของผู้ขับขี่
ข้อดี
– มีความแม่นยำ ตอบสนองได้ทันที
– ดูสวยงามกว่าดรัมเบรก
– ระบายความร้อนได้เร็ว และระบายน้ำได้ดี
– ตรวจเช็ก ทำความสะอาด และบำรุงรักษาง่าย
ข้อเสีย
– กำลังในการเบรกสู้ดรัมเบรกไม่ได้
– ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง
– ผ้าเบรกหมดไว ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกบ่อย
ระบบเบรกทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันอยู่ไม่มากไม่น้อย แต่ปัจจุบันระบบยอดนิยมก็คือ ดิสก์เบรก เพราะนอกจากประสิทธิภาพในการใช้งานแล้ว ยังสามารถอัพเกรดให้ดีขึ้นรวมถึงเพิ่มความสวยงามได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
Call Center : 02-510-9999
นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp
รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO
Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj
Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK