เคล็ดลับยานยนต์ คลิปวิดีโอ รีวิวรถโตโยต้า ข่าวอัพเดทโตโยต้า เทคนิคยานยนต์ ประกันภัยรถยนต์ และ รอบรู้เรื่องรถอื่นๆ รวมถึงโปรโมชั่นรถใหม่ป้ายแดง

แอร์รถยนต์

ปิดแอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยดูแลแอร์?

ปิดแอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยดูแลแอร์?

รถเก่าที่มีอายุมากกว่า 20 ปี ขึ้นไป ควรทำการ ปิดแอร์ ก่อนการดับเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการถนอม ยืดระยะการใช้งานของแอร์ แต่สำหรับรถรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง เพราะอะไรไปดูกัน

ปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง

รถเก่าที่มีอายุมากกว่า 20 ปี ขึ้นไป ควรทำการ ปิดแอร์ ก่อนการดับเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการถนอม ยืดระยะการใช้งานของแอร์ แต่สำหรับรถรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง เพราะอะไรไปดูกันไม่ได้มีผลหรือไม่จำเป็นต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆมีระบบตัดกระแสไฟ ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ระบบจะทำการตัดกระแสไฟที่ไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มอเตอร์สตาร์ตทำงานเพื่อให้กระแสไฟไปที่มอเตอร์สตาร์ตได้มากที่สุดในระหว่างการสตาร์ตรถ
ทำให้ไม่เกิดไฟกระชากหรือสร้างความเสียหายให้กับคอมเพรสเซอร์แอร์หรือเครื่องยนต์ แต่ควรกดปุ่ม A/C ก่อนถึงจุดหมายหรือก่อนดับเครื่องยนต์ ประมาณ 3-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นออกจากระบบแอร์ ป้องกันการเกิดกลิ่นอับ เชื้อรา เชื้อโรคต่างๆ

ปุ่ม A/C

สรุปง่ายๆ การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์  ควรทำในรถที่อายุการใช้งาน20ปีขึ้นไป(รถรุ่นเก่า) แต่ไม่จำเป็นสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ

ถุงลมนิรภัย-ถุงลม-ทำงานอย่างไร-แอร์แบ็ค

ถุงลมนิรภัย (Airbag) ทำงานอย่างไร

ถุงลมนิรภัย (Airbag) ถูกออกแบบมาเพื่อลดอาการบาดเจ็บช่วงศีรษะและคอจากการชนกระแทกกับพวงมาลัย และการเหวี่ยงไปข้างหน้าและหลังอย่างรวดเร็ว

ถุงลมนิรภัย-ถุงลม-ทำงานอย่างไร-แอร์แบ็ค

การทำงานของถุงลมนิรภัย (Airbag)

มีการทำงาน 2 ขั้นตอน คือ

  1. ในจังหวะแรก Airbag จะพองตัวแค่ 30% เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารกระแทกกับ Airbag แล้วเหวี่ยงกลับไปชนกับพนักที่นั่งอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณคอ
  2. จากนั้นจะพองตัว 100% ภายในเสี้ยววินาที เพื่อไม่ให้ตัวของผู้โดยสารไปกระแทกกับของแข็งอื่น ๆ ในห้องโดยสาร

การทำงานของ Airbag ยังสอดคล้องกับการคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย โดยหากไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย Airbag ก็จะไม่ทำงาน

เซ็นเซอร์ Airbag จะถูกติดตั้งไว้รอบ ๆ รถ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการทำงานของ Airbag ในแต่ละจุด (ขึ้นอยู่กับสเปคของรถแต่ละรุ่น) เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เซ็นเซอร์จุดที่โดนกระทบจะทำให้ Airbag ส่วนนั้นทำงานหากมีผู้โดยสารนั่งอยู่ที่ตำแหน่งนั้น

ข้อควรระวัง

  1. ห้ามนำสิ่งของทุกชนิดวางปิดช่อง Airbag เด็ดขาด
  2. สำหรับรถที่มีเด็กเล็ก ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะโดยสารตอนหน้า เพราะนั่นอาจทำให้เด็กได้รับแรงกระแทกจากการทำงานของ Airbag ได้
เช็คระยะ-โตโยต้า

ทำไมต้อง เช็คระยะรถที่ศูนย์บริการรถยนต์!!

การตรวจเช็กสภาพรถทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้เครื่องยนต์ อะไหล่ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ทำงานได้ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

เช็คระยะ-โตโยต้า

ทำไมต้อง เช็คระยะรถที่ศูนย์บริการรถยนต์!!

การขับขี่รถยนต์ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง การนำรถเข้าเช็คระยะเป็นประจำที่ศูนย์บริการรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
สำหรับรถใหม่ป้ายแดงจะมีกำหนดการเข้าเช็คระยะทุก 6 เดือน หรือที่ 10,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อนก็สามารถนำรถเข้าเช็คได้เลย) เมื่อนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบว่า ระยะที่เท่าไร ต้องตรวจเช็คสภาพอะไหล่ส่วนไหน ตรงจุดใดบ้าง เพื่อป้องกันเครื่องยนต์หรืออะไหล่ส่วนต่าง ๆ มีปัญหา ซึ่งหากพบปัญหาจะได้ทำการแก้ไขอย่างทันท่วงที

การนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการรถยนต์ มีผลต่อการเคลมประกัน
อะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆของรถยนต์ด้วย หากลูกค้านำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการรถยน์อย่างสม่ำเสมอตามระยะที่กำหนด หากพบปัญหาการเสื่อมสภาพของอะไหล่หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถ ก่อนหมดระยะรับประกัน(ภายใต้การใช้งานปกติ) ทางศูนย์บริการรถยนต์จะทำเคลมให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับอะไหล่แท้และได้มาตรฐานตรงตามรุ่นรถที่ลูกค้าใช้อยู่เพื่อความปลอดภัย และแบ่งเบาภาระค่าใช้ที่ลูกค้าไม่ควรที่จะต้องจ่าย การนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการเป็นประจำจึงสำคัญ และเป็นผลดีต่อลูกค้ามากๆ ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและ สิทธิประโยชน์ของลูกค้า

เพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีและยืดอายุการใช้งาน
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและของเหลวต่าง ๆ ตามระยะจึงจำเป็นมาก การเลือกน้ำมันเครื่องถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการรักษาเครื่องยนต์และการขับเคลื่อนของรถยนต์ การเปลี่ยนน้ำมันที่ศูนย์บริการรถยนต์ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าคือน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐานที่ดีที่สุดสำหรับรถของคุณ

แนะนำให้นำรถเข้าเช็คระยะตามที่กำหนด
เพราะหากมีอุปกรณ์ชิ้นไหนแตกหัก เสียหาย หรือเสื่อมสภาพ และต้องเปลี่ยนกรณีที่เลยระยะรับประกันไปแล้วลูกค้าจะไม่สามารถทำเคลมได้ และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเอง จึงควรนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการรถยนต์ตามที่คู่มือกำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด

การเช็คระยะรถยนต์ยังช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของรถ ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ ทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพปลอดภัย และการนำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า
อย่าลืมรักษาสิทธิ์ ด้วยการนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการรถยนต์ตามระยะที่กำหนดกันนะ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-บ่อยแค่ไหน-น้ำมันเครื่อง-โตโยต้า

ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยแค่ไหน เพื่อถนอมรักษาเครื่องยนต์

เพราะเครื่องยนต์เปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ น้ำมันเครื่องจึงสำคัญมากเช่นกัน เพราะช่วยทำหน้าที่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ชำระล้างสิ่งสกปรกและยังช่วยป้องกันเครื่องยนต์ส่วนต่างๆ ไม่ให้สึกหรอ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-บ่อยแค่ไหน-น้ำมันเครื่อง-โตโยต้า

ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยแค่ไหน เพื่อถนอมรักษาเครื่องยนต์

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
คือหนึ่งในสิ่งสำคัญของการดูแลถนอมรักษาเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์ไม่มีปัญหาและยืดอายุการใช้งาน
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามการใช้งานของรถ รถใช้งานเยอะหรือน้อยแต่ละท่านใช้รถต่างกัน

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจึงแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
-เช็คตามระยะทางหรือเข็มไมล์ รถใช้เยอะขับเยอะวิ่งงานต่างๆ ควรเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร เพื่อบำรุงรักษาเครืองยนต์
-เช็คตามระยะเดือน สำหรับรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไม่ค่อยได้ออกวิ่งก็ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ทุก 6 เดือน เพื่อรักษาเครื่องยนต์ให้ไม่เกิดปัญหา

หากไม่มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนานเกินไปหรือเกินระยะที่กำหนดไปมาก อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนและแรงเสียดทานจนทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ สึกหรอเร็วขึ้น หรือมีสิ่งสกปรกอุดตัน และยังอาจทำให้รถเป็นสนิมจนกัดกินลึกถึงเครื่องยนต์ได้ จะทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลดลง จนเป็นเหตุทำให้อะไหล่ชำรุดเสียหาย ทำให้ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงที่แพงขึ้น เนื่องจากต้องเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอหรือชำรุดอีกด้วย

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 6 เดือน หรือ ทุกๆ10,000 กิโลเมตร จึงจำเป็นและสำคัญมากในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์

***อย่าลืมตรวจเช็กน้ำมันเครื่องอยู่เสมอทั้งสี ระดับของน้ำมันเครื่อง หรือตรวจสอบว่าน้ำมันเครื่องมีจุดรั่วไหลหรือไม่***

รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมนำรถเข้าเช็คระยะ-เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่ศูนย์บริการรถยนต์ ตามระยะและเวลาที่กำหนดกันด้วยนะ

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง อาจเกิดได้หลายสาเหตุ ดังนี้ เกิดจากลักษณะโครงสร้าง และดอกยาง รวมถึงแรงดันลมยางก็มีส่วน เช่นยางชนิดออฟโรดหน้ากว้าง และดอกยางลึก เมื่อนำมาวิ่งบนถนนแห้งอาจเกิดเสียงจากดอกยางที่อัดอากาศกับพื้น ดังนั้นเพื่อเป็นการลดเสียงดังของยางมากกว่าปกติ ที่อาจเกิดขึ้นควรมั่นตรวจเช็กลมยางรถ และ ตรวจสอบศูนย์ตามค่าที่กำหนด (มาตรฐานเติมลมยางที่โตโยต้ากำหนดไว้ สามารถตรวจสอบได้จากสติ๊กเกอร์บริเวณขอบประตูด้านคนขับ และยางรถที่ใช้มานานเสียงดังเพิ่มมากขึ้น)

อย่างไรก็ตาม ทุกท่านสามารถนำรถรับการบริการตรวจเช็ก ที่ศูนย์บริการโตโยต้า กรุงไทย ทุกสาขา โทร: 02-510-9999 Facebook: @toyotakrungthai Line ID: @krungthaiservice หรือ นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าได้ที่นี่ คลิก