เรื่อง

สิ่งต้องห้าม ถ้าไม่อยากให้แอร์รถพัง

ห้ามทำสิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่อยากให้แอร์รถพัง

ด้วยสภาพอากาศของบ้านเรา ส่วนมากก็คือร้อนกับร้อนมากแอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากในชีวิตประจำวันและแอร์รถจึงสำคัญมากในทุกการเดินทาง แล้วถ้าแอร์เสียหรือมีปัญหาก็คงส่งผลทั้งร่างกายจิตใจคงทำให้หงุดหงิดอยู่ไม่น้อยจากความร้อน รวมไปถึงการเสียเวลาเสียเงินในการซ่อมอีกด้วย

แอร์รถยนต์

ถ้าไม่อยากให้แอร์พังอย่าทำสิ่งนี้

1.อย่าละเลยการล้างแอร์ ปัจจุบันการล้างแอร์รถยนต์ทำได้ทั้งแบบถอดตู้แอร์ ซึ่งเป็นวิธีแบบเดิมที่ทำมายาวนาน และแบบไม่ถอดตู้แอร์โดยการส่องกล้องและใช้หัวฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นภายในตู้แอร์

2.อย่าละเลยการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ ซึ่งควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน หรือทุก10,000-30,000 กิโลเมตร เพราะไส้กรองแอร์เป็นที่ดักจับฝุ่นและเป็นที่เก็บสะสมกลิ่นภายในรถ ถ้าไม่เปลี่ยนจะทำให้แผงแอร์สกปรกอุดตันและเกิดกลิ่นอับได้ง่าย

3.อย่านำการบูรหรือสารระเหยทิ้งไว้ในรถ เพราะจะเป็นตัวจับฝุ่น และความชื้น จะส่งผลให้เแอร์มีกลิ่นเหม็นอับและแผงแอร์อุดตันเร็วขึ้น

และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียชั้นดี จนทำให้เกิดกลิ่นอับภายในรถนั่นเอง

4.อย่าปรับอุณหภูมิเย็นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสะสมอยู่ในตู้แอร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอุดตันหรือเป็นสนิมได้และยังสิ้นเปลืองน้ำมันอีกด้วย

5.อย่าเปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ เพราะจะทำให้อากาศที่ร้อนจากข้างนอกเข้ามาและทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไปจนพังได้

ควรดูแลบำรุงรักษาแอร์ตามระยะที่กำหนดหรือตามความเหมาะสมจากการใช้งานเพื่อยืดอายุการใช้งานและการทำงานให้ความเย็นของแอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

Air Care การป้องกันแอร์มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ และการรักษาเครื่องปรับอากาศในรถยนต์

การป้องกันแอร์มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ และการรักษาเครื่องปรับอากาศในรถยนต์

Air Care การป้องกันแอร์มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ และการรักษาเครื่องปรับอากาศในรถยนต์

การป้องกันแอร์มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ ในรถยนต์

แอร์มีกลิ่นเกิดจากการสะสมของสารเคมีระเหย หรือ เชื้อแบคทีเรียผสมกับความชื้นที่คอยล์เย็นในตู้แอร์ ซึ่งในวันนี้เรามีวิธีรักษา หรือ การป้องกันแอร์มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ ในรถยนต์

วิธีการหลีกเลี่ยง และ การรักษาเครื่องปรับอากาศ ในรถยนต์

  • ไม่เก็บหรือนำของมีกลิ่น อาทิเช่น อาการ ขยะ สิ่งหมักหมม เข้ามาเก็บไว้ในรถ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารหอมแบบระเหิด เช่น เจล การบูธ หรือสเปรย์ แนะนำให้ใช้น้ำหอมชนิดน้ำแทน
  • ก่อนจะดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรจะปิดสวิตช์คอมเพรสเซอร์ และเปิดสวิตช์พัดลมแอร์ไว้ประมาณ 2 – 3 นาที เพื่อให้พัดลมแอร์เป่าลมไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็น และ เป็นการลดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แอร์นั้นมีกลิ่นเหม็นอับ

*สำหรับวิธีการแก้ปัญหาการเกิดกลิ่นอับ ที่ออกมาจากช่องปรับอากาศ หรือภายในรถยนต์ เบื้องต้นนั้น สามารถแก้ไขได้โดย จอดรถในที่โล่งแจ้ง แดดส่องได้อย่างทั่วถึง จากนั้นเปิดประตูรถให้หมดทุกบาน จอดรถตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หรือ จนกว่ากลิ่นอับจะจางหายไป