เรื่อง

จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์เรา ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน
จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์ ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน

จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์ ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน

Thumbnail-01

1. สังเกตจากจุกบอกสภาพยางรถยนต์ หรือดุ่มบอกสภาพยาง

จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์เรา ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน 02

2. แก้มยางบวม-รอยแตก หรือแยกส่วนออกจากกัน มีความเสียงสูงที่จะทำยางระเบิด

จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์เรา ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน 03

3. ส่วนใหญ่ยางรถยนต์ทุกประเภททุกยี่ห่อ มีอายุของปียางซึ่งจะไม่เกิน 3-4ปี ที่คนส่วนมากมองข้ามกัน เราสามารถดูสัปดาห์ที่ผลิต ที่ติดอยู๋ข้างยาง เราไม่ควรใช้งานที่อายุนานๆ ถึงแม้ว่ามองด้วยตาเปล่าว่าสภาพยางยังใหม่หรือดอกยางยังเหลือเยอะยังสวยอยู่ เราไม่ควรมองข้าม เพราะยางจะเสื่อมสภาพตามอายุ วัสดุที่ผลิต และการใช้งานอู่แล้ว

จะรู้ได้ยังไงว่า ยางรถยนต์เรา ถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยน 04

4. รอยรั่วของยาง สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน หากยางของเรามีรอยรั่วหรือไปเหยียบตะปูมาแล้ว มาปะใช้งานต่อแล้วเนี้ย ยิ่งเพิ่มความเอาใจใส่ให้มาก ควรเช็กอย่างสม่ำเสมอ ตำแหน่งรั่วที่สามารถนำกลับมาใช้งานต่อนั้นควรจะอยู๋บริเวณหน้ายาง ไม่ควรอยู่ระหว่างข้างๆแก้มยาง และรอยรั่วไม่ควรกว้างเกิน 1 ซม.

ถ้าหากผู้ใช้งานไม่เช็กความพร้อมของยางอย่างสม่ำเสมอ หรือเช็กแล้วเห็นจุดบกพร่องของยางแล้ว แต่ไม่รีบแก้ไขหรือบรรทุกเกินอัตราที่คู่มือรถกำหนด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายนะครับ

ด้วยความปรารถนาดีจาก ศูนย์บริการโตโยต้า กรุงไทย

car tire_1200x675px

พฤติกรรมที่ทำให้ ยางรถยนต์ เสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด

การเติมลมยาง

การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทใช้งาน

การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทใช้งาน

การเติมลมยางรถยนต์ มีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับการเติมลมยางขนาดนั้น นั้นก็เพราะ ยางรถยนต์เป็นส่วน แบกรับน้ำหนักทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุที่ต้องคอยดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ลมยางรถยนต์อ่อนหรือแข็งมากเกินไป  ซึ่งการเติมลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐาน จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และจะส่งผลกระทบต่อไหล่ยาง จะให้เกิดความร้อนสูง และก็จะสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่นๆ จะทำให้ยางของเราไหม้ได้ หรือบริเวณแก้มยางฉีกขาดได้ด้วย และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันด้วย และหากเติมลมยางเกินมาตรฐานมากเกินไป ก็จะทำให้พื้นที่สัมพันธ์ของหน้ายางกับพื้นถนนั้นลดลง ทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่าย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอาจจะทำให้ยางเกิดการระเบิดได้ง่าย เมื่อได้รับแรงกระแทกหรือถูกของมีคม นอกจากนั้นก็จะส่งผลต่อการขับขี่ ที่ทำให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง หากเราไม่ทราบว่าจะเติมเท่าไหร่ดี สามารถดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ด้านข้างประตู หรือในสมุดคู่มือรถยนต์ได้นะครับ

การเติมลมยางแบบมีเกจ์วัด

และทำไมเราถึงต้องเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถแต่ละประเภทละ ?

     นั่นก็เพราะรถแต่ละประเภท มีขนาดยางไม่เท่ากัน ทั้งการใช้งานที่แตกต่างกัน การรับน้ำหนักก็ต่างกันของรถแต่ละประเภท ซึ่งมาตรฐาน การเติมลมยางรถยนต์ ก็จะแตกต่างกันไป โดยทางโรงงานผู้ผลิตจึงได้กำหนดการเติมลมยางรถออกมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถในแต่ละประเภท ดังนั้นเราลองมาดูกันว่า รถประเภทไหนควรเติมลมยางเท่าไหร่

วิธีการเติมลมยางที่เหมาะสมของรถยนต์แต่ละประเภท ดังนี้

  1. สำหรับการเติมลมยางรถกระบะ 2 ประตู และ 4 ประตู และรถ SUV (รถยนต์นั่งอเนกประสงค์) ให้เหมาะสมนั้น ซึ่งตามมาตรฐานแล้วควรจะเติมลมยางได้สูงสุดไม่เกิน 65 ปอนด์/ตารางนิ้ว
  2. รถเก๋งที่มีขนาดกลาง-ใหญ่ หรือรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่อยู่ในระดับ 1500 cc ขึ้นไป ความดันลมยางที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 30 – 35 ปอนด์ / ตารางนิ้ว
  3. รถเก๋งที่มีขนาดเล็ก ก็คือรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องยนต์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1500 cc ซึ่งความดันลมยางที่เหมาะสม จะอยู่ที่ประมาณ 25 – 30 ปอนด์ / ตารางนิ้ว

     ทั้งนี้การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทและการใช้งานของรถยนต์นั้น ถือได้ว่าเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถยนต์และยางรถยนต์ได้อีกทาง และยังช่วยให้รถยนต์เราประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งยังช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วยนะครับ

ยางรถเสื่อมไว

รู้ไว้ใช่ว่า….! 6 สาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์เสื่อมไวกว่าปกติ

ยางรถเสื่อมไว สาเหตุเกิดจาก ?

ยางรถเสื่อมไว

1. การเติมลมยางที่ไม่พอดี

เป็นเรื่องที่คนใช้รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะเจออยู่เสมอซึ่งมีอยู่หลายสาเหตุ โดยสาเหตุคราวๆที่มักจะเจอกันบ่อยก็คือ การเติมลมยางที่เกินพอดี (ยางแข็งเกินไป) หรือเติมลมยางอ่อนกว่าเกณฑ์ ซึ่งสาเหตุพวกนี้มักจะมาจากการขาดความรู้เรื่องการดูแลรักษายาง ดังนั้นแล้วท่านใดที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการเติมลมยางแล้วควรต้องกลับมาเปลี่ยนความคิดใหม่ โดยทางทีมงาน โตโยต้า กรุงไทย มีวิธีการเติมลมยางที่ถูกวิธีนั้นก็คือ ควรเติมลมยางตามคำแนะนำที่ติดไว้ข้างประตูฝั่งคนขับครับซึ่งในแต่ละรุ่นรถก็จะมีเกณฑ์การเติมลมต่างกันออกไป

ความดัน ลมยาง จำง่ายๆ ดังนี้

– รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมประมาณ 25 -30 ปอนด์
– รถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ ควรเติมประมาณ 30 -35 ปอนด์
– รถกระบะ ควรเติมไม่เกิน 65 ปอนด์

การเติมลมยางรถยนต์คือเรื่องที่ละเลยไม่ได้เด็ดขาด เพราะนั้นหมายถึงความปลอดภัยขณะขับขี่บนท้องถนนของคุณ

2. การที่รถทำการบรรทุกหนัก

ส่วนมากแล้วปัญหาการบรรทุกน้ำหนักเกินมักจะพบมากที่สุดในรถกระบะครับ ซึ่งการบรรทุกน้ำหนักเกินมากจนเกินไปทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัยและยังจะเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่บนท้องถนนมากขึ้นอีกด้วย เมื่อบรรทุกหนักยางก็จะถูกแรงกดทับมากจนเกินไปและทำงานหนักตามไปด้วย ส่งผลให้ยางมีปัญหาขณะขับขี่นั่นเอง

3. หลีกเลี่ยงการเบรกและออกตัวอย่างรุนแรง

          รถที่ออกตัวรุนแรงหรือมีการเบรกกระทันหัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถของท่านเกิดระเบิดขึ้นมาในระหว่างการขับขี่ได้และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ดอกยางรถยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานที่กำหนดด้วยนั่นเอง

4. ขับขี่รวดเร็วมีแต่ผลเสีย

การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นอีก 1 ในสาเหตุของการเสื่อมสภาพของรถยนต์ ซึ่งการขับรถเร็วนั้นทำให้ยางพังไวกว่ากำหนดและที่สำคัญเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วยครับ นึกภาพง่ายๆ เลยเช่น เมื่อรถยนต์เลี้ยงเข้าโค้งด้วยความเร็ว แก้มยางด้านข้างของรถยนต์ที่แข็งเกินไปจะไม่สามารถสัมผัสพื้นถนนได้เต็มที่ นำมาซึ่งอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ของท่านเสื่อมอายุการใช้งานเร็วกว่ากำหนดอีกด้วยครับ

5. เลี่ยงถนนที่ขรุขระเพื่อยืดอายุยาง

แม้ถนนที่ชำรุดจะเป็นเรื่องที่เรามักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม แต่เมื่อเราเจอถนนชำรุด ก็ควรที่จะขับขี่อย่างระมัดระวังยางรถยนต์ที่จะไปเสียดสีกับผิวถนน เป็นส่วนที่ทำให้ยางรถเกิดความสึกหรอได้เลยเช่นกัน ดังนั้นการขับขี่ใบพื้นถนนที่เลี้ยงไม่ได้ ก็ควรจะขับขี่อย่างช้าๆ เพื่อถนอมอายุการใช้งานของยางรถยนต์ให้นานที่สุด

6. ตั้งระบบศูนย์ล้อไม่ตรงกับขนาดของล้อรถยนต์

ข้อนี้ถือได้ว่าเป็นปัญหาอันตรายที่ละเลยไม่ได้จริงๆ เรื่องการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบบ่อยของรถยนต์ที่ทำการดัดแปลงมาครับ เมื่อศูนย์ล้อไม่ตรงกับสเปรคของยาง ก็อาจจะเกิดแรงเสียดทานขึ้นมาได้ ดังนั้นท่านควรที่จะตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้ตรงกับขนาดของล้อที่ท่านใช้ครับ เพื่อความปลอดภัยในขณะขับขี่รถยนต์

เห็นแบบนี้แล้ว ท่านต้องหันกลับมาใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างเรื่องการดูแลรักษายาง ซ่ะแล้ว เพราะยางรถเป็นส่วนสำคัญอันดับแรกที่เราละเลยไม่ได้เลยจริง ๆ

ทั้งหมดที่ได้เกริ่นมาข้างบนนี้ ทางทีมงาน โตโยต้า กรุงไทย  ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อที่ท่านจะได้ถนอมอายุการใช้งานของยางรถยนต์ให้อยู่กับท่านได้นานขึ้น

นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการ ศูนย์บริการทั่วไปและอะไหล่,  ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสี  ไว้บริการท่านอีกด้วย