เรื่อง

ไฮลักซ์ รีโว่ ฺB20

โตโยต้าขานรับนโยบาย น้ำมันไบโอดีเซล บี 20 พร้อมปรับราคาไฮลักซ์ รีโว่ทุกรุ่น

โตโยต้าขานรับนโยบาย น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ยืนยันความพร้อม ร่วมแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมปรับราคาไฮลักซ์ รีโว่ ทุกรุ่น

Hilux-Revo-Rocco-2.4

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน

Hilux-Revo-Rocco-2.4

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน สมกับที่รอคอยกันนะครับ สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่รุ่นใหม่ เป็นกระบะรุ่นใหม่จากค่ายโตโยต้านะครับ ซึ่งการออกแบบตกแต่งได้สวยงาม ดุดัน และทำให้การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ระบบเกียร์ เป็น 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift (Sequential Shift จะมีในเฉพาะรุ่น AT) อีกทั้งยังราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 804,500 บาทเท่านั้นนะครับ มีทั้งรุ่นสมาร์ท แค็บ และดับเบิ้ล แค็บ ให้เลือกกันนะครับ วันหน้าเราจะนำรูปภาพ วิดีโอ ไฮไลท์ ให้ได้ชม และคอยติดตามกันนะครับ

Hilux Revo รุ่น Prerunner 2x4 2.4G AT Rocco

Hilux Revo รุ่น Prerunner 2×4 2.4G AT Rocco

Hilux Revo 4X4 2.8G Rocco

Hilux Revo 4X4 2.8G Rocco

ทดลองขับและเป็นเจ้าของ ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ง่ายๆที่โตโยต้า กรุงไทย ทั้ง 3 สาขาดังนี้ โชว์รูมโตโยต้า รามอินทรา, โชว์รูมโตโยต้า เกษตรฯ – พหลโยธิน และโชว์รูมโตโยต้า ตลิ่งชัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่

โปรโมชั่นโตโยต้า, ไฮไลท์ สเปครุ่นรถ รีโว่ ร็อคโค่

หรือ

Website:           www.toyotakrungthai.com
Call Center:      0-2510-9999
Hotline:             08-6355-7144

วิดีโอรีวิว

แชร์บทความ

พวงมาลัยรถยนต์

พวงมาลัยรถทำงานอย่างไร

พวงมาลัยรถโตโยต้า

ทำความรู้จัก! การทำงานของระบบพวง มาลัยรถยนต์
พบกันอีกเช่นเคยกับบทความสำหรับผู้รักรถยนต์ โดยในวันนี้ทางทีมงาน โตโยต้า กรุงไทย ก็ไม่พลาดนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถยนต์มาฝากเช่นเคย อุปกรณ์อีกหนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ เพราะถ้าไม่มีตัวนี้แล้ว รถของท่านอาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนก็ได้ แน่นอนซึ่งนั่นก็คือ พวงมาลัยรถยนต์ นั่นเองครับ พวงมาลัยรถยนต์ถือว่าเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในรถยนต์เลยครับ เพราะทำหน้าที่ควบคุมให้รถยนต์ไปตามทิศทางที่กำหนดและยังเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องทำความรู้จักมันให้มากๆเลยทีเดียว

ซึ่งส่วนประกอบที่สำคัญของระบบพวงมาลัย ได้แก่ พวงมาลัย, ขายึดแกนพวงมาลัย, แกนพวงมาลัย, หน้าแปลนพวงมาลัย, ยางข้อต่อ, กระปุกพวงมาลัย, แขนเกียร์พวงมาลัย, คันชักคันส่งกลาง, คันชักคันส่งข้าง , แขนดึงกลับ และกระปุกพวงมาลัย

รู้หรือไม่ครับว่า พวงมาลัยรถยนต์ในหลายๆค่ายที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นิยมใช้กันหลายแบบโดยจะมีรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น

แรคแอนด์พีเนียน ซึ่งเจ้าพวงมาลัยชนิดนี้ จุดเด่นก็คือ ต้นทุนไม่แพง เป็นระบบการบังคับเลี้ยวชนิดหนึ่ง แบบสะพานมีเฟือง กับเฟืองหมุนขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่น้อย แถมยังตอบสนองการขับขี่ไวอีกด้วย

แบบบอลล์แอนด์นัท พวงมาลับแบบนี้มักจะนิยมใช้ในรถกระบะบางรุ่น อย่างเช่น โตโยต้า รีโว่ (Toyota Revo) หรือรถบรรทุกยี่ห้อดังหลายๆเจ้า รถโดยสารขนาดใหญ่ โดยการทำงานของเจ้าพวงมาลัยนี้จะมีชุดวาล์วเพื่อควบคุมทิศทางน้ำมันไฮดรอลิกส์แบบโรตารี่ ควบคุมการทำงานด้วยแรงหมุนพวงมาลัยจากผู้ขับร่วมกับความฝืดของยางรถยนต์กับพื้นถนน ซึ่ีงจะอาศัยการบิดตัวของทอร์ชันบาร์สปริง ข้อดีของขวงมาลัยแบบ แบบบอลล์แอนด์นัท นี้ คือทนมากกว่าแบบ แรคแอนด์พีเนียน ครับ

พวงมาลัยแบบเพาเวอร์ เป็นพวงมาลัยชนิดสุดท้ายที่ถูกผลิตมาใช้ในท้องตลาดครับ ซึ่งปัจจุบันมีย่อยลงไปอีก 3 แบบ ได้แก่

1. แบบใช้น้ำมันอย่างเดียว เรียกว่า แบบไฮดรอลิกส์

2. แบบไฮดรอลิกส์ร่วมกับไฟฟ้า

3. แบบไฟฟ้าใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบไม่มีน้ำมันเพาเวอร์ สายพานหรือปั๊มเพาเวอร์คอยดึงกำลังจากเครื่องยนต์มาช่วย แต่จะเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดเข้ามาช่วยในการเลี้ยวและหมุนพวงมาลัยได้สะดวกยิ่งขึ้น ข้อดีของเจ้าพวงมาลัยนี้ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิิม อีกทั้งยังลดภาระเครื่องยนต์ไม่ต้องบำรุงรักษาตามระยะ แต่เมื่อมีปัญหาก็ต้องเสียค่าซ่อมแพงหูฉี่เลยทีเดียว

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับพวงมาลัยรถยนต์ ที่ทางทีมงานได้นำมาเสนอ คาดว่าคงจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการขับขี่ ส่งผลไปถึงความปลอดภัยของรถยนต์ พวงมาลัยรถยนต์ ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่รถยนต์หลายค่ายต่อหลายค่าย แข่งขันกันผลิตออกมาให้ใช้งานดีที่สุดและทันสมัยที่สุด เพื่อตอบโจทย์ของการใช้รถยนต์ในยุคนี้มากที่สุดครับ ทั้งนี้ รถยนต์โตโยต้า ของเราก็ให้ความสำคัญกับการผลิตพวงมาลัยรถยนต์ให้ออกมาตอบสนองความต้องการ และได้มาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานมากที่สุดเช่นกัน

นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการอื่นๆจาก ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย


โปรแรงๆ ขวัญใจ กระบะ Revo


ติดตามข่าวสาร โปรโมขั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ

รถเกียร์ธรรมดา มี 5 ข้อที่ต้องห้ามทำ

5 สิ่งที่ห้ามทำสำหรับคนที่ใช้รถเกียร์ธรรมดา

รถเกียร์ธรรมดา มี 5 ข้อที่ต้องห้ามทำ

รถเกียร์ธรรมดา มี 5 ข้อที่ต้องห้ามทำ

1. ไม่เหยียบคลัทช์ค้างไว้ขณะจอดติดไฟแดง

ถึงแม้ว่าท่านผู้รักรถยนต์จะขับรถยนต์เกียร์ธรรมดาส่วนใหญ่จะใส่เกียร์ว่างขณะรถจอดติดไฟแดง เพราะไม่อยากเหยียบคลัทช์ให้เมื่อยขา แต่บางคนก็เลือกที่จะเข้าเกียร์พร้อมกับเหยียบคลัทช์ค้างเอาไว้ในบางโอกาส เนื่องจากต้องการความรวดเร็วในการออกตัว แต่การเหยียบคลัทช์ค้างไว้นั้น จะทำให้ลูกปืนคลัชท์เสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น ทางที่ดีจึงควรใส่เกียร์ว่างทุกครั้งเมื่อรถยนต์หยุดนิ่งดีกว่าครับ

2. ใช้เกียร์สูงขณะที่ความเร็วต่ำ

ท่านผู้รักรถยนต์ไม่ควรใช้เกียร์สูงในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ อย่างเช่น ท่านกำลังใช้เกียร์ 5 ขณะที่ท่านขับขี่ด้วยความเร็วต่ำเพียง 40 กม./ชม. โดยเฉพาะการเหยียบคันเร่งจมมิด เพราะจะเป็นการฉุดกำลังเครื่องยนต์ เร่งไม่ขึ้น อีกทั้งยังเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุอีกด้วย ทางที่ดีควรใช้ตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสมในแต่ละย่านความเร็วครับ

3. ไม่ควรวางมือไว้บนคันเกียร์

หลายท่านมักจะเกิดความเคยชินด้วยการใช้คันเกียร์เป็นที่พักมือทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ซึ่งในกรณีเกียร์ออโต้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่สำหรับเกียร์ธรรมดานั้น หากกดน้ำหนักมือมากจนเกินไป จะสร้างแรงกดไปยังก้ามปูเกียร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการหลวมจนเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรดังนั้นแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือ ไม่ควรวางมือไว้บนคันเกียร์ เลยจะดีที่สุดครับ

4. ไม่เร่งเครื่องขณะจอดติดทางชัน

ถ้าหากท่านผู้รักรถยนต์ได้จอดติดบนทางชันนั้น ท่านไม่ควรใช้วิธีเร่งเครื่องเพื่อป้องกันรถไหล เพราะอาจทำให้คลัทช์ไหม้ได้ ทางที่ดีควรเหยียบเบรก ปลดเกียร์ว่าง แล้วจึงดึงเบรกมือค้างไว้ หากกลัวว่ารถจะไหลไปข้างหลังขณะออกตัว ให้ใช้วิธีดึงเบรกมือจนสุด เร่งเครื่องยนต์ตามปกติ จากนั้นจึงปลดเบรกมือลง จะช่วยให้รถไม่ไหลลงทางชัน แต่ทางที่ดีควรฝึกขับเกียร์ธรรมดาให้คุ้นชิน เพื่อจะได้กะระยะปล่อยคลัทช์ได้อย่างแม่นยำครับ

5. ไม่วางเท้าบนแป้นคลัทช์

เป็นข้อห้ามสุดคลาสสิกสำหรับรถเกียร์ธรรมดาเลยก็ว่าได้ เพราะการวางเท้าบนแป้นคลัทช์ด้วยน้ำหนักมากจนเกินไป จะทำให้ชุดคลัทช์เกิดการเสียดสีจนทำให้คลัทช์หมดได้ บางกรณีอาจทำให้เกิดอาการคลัทช์ไหม้ได้อีกด้วยจะสังเกตได้จากกลิ่นนั้นเองครับ

     เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับวิธีที่ทางทีมงานได้นำมาแนะนำกันในบทความนี้ จริงๆแล้วเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ท่านผู้รักรถยนต์เองก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองครับ ซึ่งถ้าหากรู้วิธีขับรถเกียร์ธรรมดาอย่างถูกต้องแล้วล่ะก็ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น จนผู้ที่ขับรถเกียร์อัตโนมัติต้องอิจฉาแน่นอนครับ ท่านสามารถพบกับบทความแบบนี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับ เกร็ดความรู้รถยนต์ ที่มี สาระความรู้รถยนต์ สำหรับคราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นต้องคอยติดตามกันครับ

      นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการอื่นๆจาก ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย


โปรแรงๆ ขวัญใจ กระบะ Revo


ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ

5 สิ่งที่ห้ามทำสำหรับคนที่มีรถเกียร์ออโต้

5 สิ่งที่ห้ามทำสำหรับคนที่มีรถเกียร์ออโต้

5 สิ่งที่ห้ามทำสำหรับคนที่มี รถเกียร์ออโต้5 สิ่งที่ห้ามทำสำหรับคนที่มีรถเกียร์ออโต้

1.เมื่อจะต้องหยุดรถเป็นระยะเวลานานๆ ท่านไม่สมควรใส่เกียร์ไว้ในตำแหน่ง D ค้างไว้ ถึงแม้กระนั้น ท่านควรที่จะเลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ N หรือ P แล้ว ดึงเบรกมือไว้ การที่ท่านใส่เกียร์ D ค้างไว้เป็นระยะเวลานานๆแล้ว มันจะส่งผลให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งทำให้องค์ประกอบด้านในชุดห้องเกียร์เกิดความเสียหาย อีกทั้งยังลดอายุการใช้งานให้สั้นลด ซึ่งนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้

2.เกียร์ออโต้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีโหมดให้เลือกเปลี่ยนเกียร์เองเหมือนเกียร์แมนนวล ในส่วนนี้จะทำให้ประสิทธิภาพการตอบสนองนั้นสู้เกียร์แมนนวลแท้ ๆ แบบมีคลัตช์ไม่ได้ ทำให้หลายคนชอบลากรอบเครื่องยนต์ให้สูง แล้วค่อยชิพเปลี่ยนเกียร์ที่คันเกียร์ หรือแพทเดิลชิพที่พวงมาลัยหรือวิ่งด้วยความเร็วสูงแล้วเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ ทำให้รอบเครื่องสูงไม่สัมพันธ์กับความเร็ว จะทำให้เกียร์ได้รับความเสียหายได้ ควรใช้ตำแหน่งเกียร์และความเร็วที่เหมาะสมสัมพันธ์กัน ไม่ควรใช้รอบเครื่องยนต์สูงโดยไม่จำเป็น

3. การใช้เกียร์ออโต้ในตำแหน่ง 1 หรือ L นั้น ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ จริงๆแล้ว กรณีนี้ควรจะใช้ในกรณีที่ต้องการแรงบิดที่มากขึ้นเวลาขึ้นทางลาดชัน ติดหล่ม ลากรถขึ้นจากหล่ม หรือเวลาลงทางชัน ต้องการใช้เอ็นจินเบรก แทนการใช้เบรกที่ล้อที่จะเกิดความร้อนสะสมได้ การใช้เกียร์ออโต้ในตำแหน่ง 1 หรือ L นั้น ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นระยะทางไกล ๆ เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสะสมในห้องเกียร์ได้ซึ่งนำมาให้ระบบเกียร์เกิดความเสียหายได้ในระยะยาว

4. การขับรถเกียร์ออโต้นั้น ถ้าผู้ขับขี่ไม่มีความชำนาญหรือความคุ้นเคยกับเกียร์ออโต้ของรถแต่ละคันแล้วจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน สำหรับในการคิ๊กดาวน์ หรือชิพดาวน์เพื่อต้องการอัตราเร่งเพื่อแซงรถคันหน้านั้น การตอบสนองของรถแต่ละยี่ห้อและรุ่นตอบสนองไม่เหมือนกัน บางรุ่นตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ บางรุ่นจะมีหน่วงอยู่บ้าง ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้และมีสร้างความคุ้นเคยกับรถที่ขับให้เป็นอย่างดี การเร่งแซงที่ผิดจังหวะ หรือกะระยะไม่ดี จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

5. เกียร์ออโต้ก็ต้องการบำรุงรักษาเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของเครื่องยนต์ สำหรับการบำรุงรักษาโดยปกติจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ควรเปลี่ยนตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด อย่าฝืนใช้เกินกำหนดเป็นระยะทางเป็นเวลานาน บรรดาเศษโลหะจะสะสมในห้องเกียร์มากขึ้น และจะทำให้ระบบเกียร์ทำงานไม่ได้สมบูรณ์การระบายความร้อนห้องเกียร์ก็จะทำได้ไม่เต็มที่ อายุการใช้งานสั้นลง ต้องเข้าโรงซ่อมเพียงอย่างเดียวและเมื่อต้องซ่อมเกียร์จะเสียทั้งเวลาและเงินไปโดยใช่เหตุ

และสำหรับการดูแลและรักษายืดอายุการใช้งาน เกียร์ออโต้ นั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่ท่านผู้รักรถยนต์ลองฝึกและปฏิบัติตาม สร้างความคุ้นเคยกับ เกียร์ออโต้  ในรถยนต์ของท่านกันถึงแม้ท่านจะขับรถยนต์ได้คล่องขนาดไหน แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ยังมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้เสมอท่านสามารถติดตาม เกร็ดความรู้รถยนต์ และ สาระความรู้รถยนต์ ได้ที่เว็บไซต์ โตโยต้า กรุงไทย ซึ่งคราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ต้องคอยติดตาม

นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการอื่นๆจาก ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย


โปรแรงๆ ขวัญใจ กระบะ Revo


ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ