เคล็ดลับยานยนต์ คลิปวิดีโอ รีวิวรถโตโยต้า ข่าวอัพเดทโตโยต้า เทคนิคยานยนต์ ประกันภัยรถยนต์ และ รอบรู้เรื่องรถอื่นๆ รวมถึงโปรโมชั่นรถใหม่ป้ายแดง

Toyota-Recheck-Safety-of-Airbags_Thumbnail

ขอเชิญตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ ถุงลมนิรภัย Airbags ฟรี!..ไม่มีค่าใช้จ่าย

ขอเชิญเจ้าของรถ เข้ารับบริการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วน ถุงลมนิรภัย Airbags ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

โตโยต้า กรุงไทย ขอเชิญเจ้าของรถยนต์โตโยต้า เข้ารับบริการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ ถุงลมนิรภัย Airbags ฟรี!..โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) ท่านเจ้าของรถสามารถตรวจสอบสิทธิ์และเข้ารับบริการได้ที่ โตโยต้า กรุงไทย ทั้ง 3 สาขาดังนี้ ศูนย์บริการโตโยต้า รามอินทรา, ศูนย์บริการโตโยต้า เกษตรฯ-พหลโยธิน และศูนยบริการโตโยต้า ตลิ่งชัน

ตรวจสอบสิทธิ์ หรือนัดหมายเข้ารับบริการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทร คอลเซ็นเตอร์ 0-2510-9999, 08-6355-7144

สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อลงทะเบียนตรวจสอบและนัดหมายเข้ารับบริการ

ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า
คอลเซ็นเตอร์: 0-2510-9999
สายด่วนนัดหมายเข้ารับบริการ: 08-6355-7144


Toyota Recheck Safety of Airbags


ลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้าตรวจสอบและรับบริการ

กรุณากรอกรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อสิทธิประโยชน์ของลูกค้าเอง และทางเจ้าหน้าที่จะรีบติดต่อกลับท่านโดยเร็ว เพื่อแจ้งข้อมูลสิทธิ์ในการเข้าตรวจสอบและเข้ารับบริการ

ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า
คอลเซ็นเตอร์: 0-2510-9999
สายด่วนนัดหมายเข้ารับบริการ: 08-6355-7144
อีเมล: krungthaiweb@gmail.com



ติดตามข่าวสารอัพเดท โปรโมชั่นโตโยต้า และข้อเสนอพิเศษ ของเราที่ 

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์โปรโมชั่น

Hilux-Revo-Rocco-2.4

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน

Hilux-Revo-Rocco-2.4

มาแล้ว รุ่นใหม่!.. ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รุ่น 2.4G เครื่องเล็กประหยัดน้ำมัน สมกับที่รอคอยกันนะครับ สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่รุ่นใหม่ เป็นกระบะรุ่นใหม่จากค่ายโตโยต้านะครับ ซึ่งการออกแบบตกแต่งได้สวยงาม ดุดัน และทำให้การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ระบบเกียร์ เป็น 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift (Sequential Shift จะมีในเฉพาะรุ่น AT) อีกทั้งยังราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 804,500 บาทเท่านั้นนะครับ มีทั้งรุ่นสมาร์ท แค็บ และดับเบิ้ล แค็บ ให้เลือกกันนะครับ วันหน้าเราจะนำรูปภาพ วิดีโอ ไฮไลท์ ให้ได้ชม และคอยติดตามกันนะครับ

Hilux Revo รุ่น Prerunner 2x4 2.4G AT Rocco

Hilux Revo รุ่น Prerunner 2×4 2.4G AT Rocco

Hilux Revo 4X4 2.8G Rocco

Hilux Revo 4X4 2.8G Rocco

ทดลองขับและเป็นเจ้าของ ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ง่ายๆที่โตโยต้า กรุงไทย ทั้ง 3 สาขาดังนี้ โชว์รูมโตโยต้า รามอินทรา, โชว์รูมโตโยต้า เกษตรฯ – พหลโยธิน และโชว์รูมโตโยต้า ตลิ่งชัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่

โปรโมชั่นโตโยต้า, ไฮไลท์ สเปครุ่นรถ รีโว่ ร็อคโค่

หรือ

Website:           www.toyotakrungthai.com
Call Center:      0-2510-9999
Hotline:             08-6355-7144

วิดีโอรีวิว

แชร์บทความ

ระบบเบรก ABS

ระบบเบรกABS มีความสำคัญอย่างไร

ระบบเบรกABS มีความสำคัญอย่างไร

ระบบเบรกABS (Anti – Lock Brake System) คือ ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก ถูกออกแบบมาเพื่อเปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยให้ระบบเบรกพื้นฐานทำงานดียิ่งขึ้น เพราะเมื่อเกิดสภาวะคับขันในการเบรก จะช่วยป้องกันอาการเบรกล็อก หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าเบรกตายนั้นเอง ซึ่งถ้ารถยนต์ที่ไม่มีระบบ ABS (ระบบเบรกพื้นฐานแบบเก่า) เมื่อเกิดเหตุที่จะต้องเหยียบเบรกอย่างกะทันหันและแรงนั้น จะทำให้เกิดอาการล้อล็อกหรือล้อตาย ผู้ที่ขับขี่จะไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ แต่ในทางตรงข้ามหากรถยนต์คันไหนมีระบบเบรก ABS จะช่วยให้รถยนต์สามารถควบคุมทิศทาง หรือหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ในขณะที่เบรกรถอย่างกระทันหัน Read more

การเติมลมยาง

การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทใช้งาน

การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทใช้งาน

การเติมลมยางรถยนต์ มีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับการเติมลมยางขนาดนั้น นั้นก็เพราะ ยางรถยนต์เป็นส่วน แบกรับน้ำหนักทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุที่ต้องคอยดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ลมยางรถยนต์อ่อนหรือแข็งมากเกินไป  ซึ่งการเติมลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐาน จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และจะส่งผลกระทบต่อไหล่ยาง จะให้เกิดความร้อนสูง และก็จะสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่นๆ จะทำให้ยางของเราไหม้ได้ หรือบริเวณแก้มยางฉีกขาดได้ด้วย และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันด้วย และหากเติมลมยางเกินมาตรฐานมากเกินไป ก็จะทำให้พื้นที่สัมพันธ์ของหน้ายางกับพื้นถนนั้นลดลง ทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่าย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอาจจะทำให้ยางเกิดการระเบิดได้ง่าย เมื่อได้รับแรงกระแทกหรือถูกของมีคม นอกจากนั้นก็จะส่งผลต่อการขับขี่ ที่ทำให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง หากเราไม่ทราบว่าจะเติมเท่าไหร่ดี สามารถดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ด้านข้างประตู หรือในสมุดคู่มือรถยนต์ได้นะครับ

การเติมลมยางแบบมีเกจ์วัด

และทำไมเราถึงต้องเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถแต่ละประเภทละ ?

     นั่นก็เพราะรถแต่ละประเภท มีขนาดยางไม่เท่ากัน ทั้งการใช้งานที่แตกต่างกัน การรับน้ำหนักก็ต่างกันของรถแต่ละประเภท ซึ่งมาตรฐาน การเติมลมยางรถยนต์ ก็จะแตกต่างกันไป โดยทางโรงงานผู้ผลิตจึงได้กำหนดการเติมลมยางรถออกมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถในแต่ละประเภท ดังนั้นเราลองมาดูกันว่า รถประเภทไหนควรเติมลมยางเท่าไหร่

วิธีการเติมลมยางที่เหมาะสมของรถยนต์แต่ละประเภท ดังนี้

  1. สำหรับการเติมลมยางรถกระบะ 2 ประตู และ 4 ประตู และรถ SUV (รถยนต์นั่งอเนกประสงค์) ให้เหมาะสมนั้น ซึ่งตามมาตรฐานแล้วควรจะเติมลมยางได้สูงสุดไม่เกิน 65 ปอนด์/ตารางนิ้ว
  2. รถเก๋งที่มีขนาดกลาง-ใหญ่ หรือรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่อยู่ในระดับ 1500 cc ขึ้นไป ความดันลมยางที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 30 – 35 ปอนด์ / ตารางนิ้ว
  3. รถเก๋งที่มีขนาดเล็ก ก็คือรถเก๋งที่มีขนาดเครื่องยนต์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1500 cc ซึ่งความดันลมยางที่เหมาะสม จะอยู่ที่ประมาณ 25 – 30 ปอนด์ / ตารางนิ้ว

     ทั้งนี้การเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทและการใช้งานของรถยนต์นั้น ถือได้ว่าเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถยนต์และยางรถยนต์ได้อีกทาง และยังช่วยให้รถยนต์เราประหยัดน้ำมัน พร้อมทั้งยังช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วยนะครับ

7 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถ

7 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถยนต์

7 สิ่งที่ต้องเปลี่ยน เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถยน7 สิ่งที่ต้องเปลี่ยน เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถยนต์

1. น้ำมันเครื่องรถยนต์ : น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างแรกเลยสำหรับรถยนต์ที่จะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เนื่องมาจากในชีวิตประจำวันยิ่งเราใช้งานรถยนต์บ่อยขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องขยันเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์มากขึ้นตามไปด้วยครับ ซึ่งตามอายุการใช้งาน เราควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ตั้งแต่รถมีระยะการใช้งาน 5,000 ถึง 10,000 กิโลเมตรครับ

2. ไส้กรองน้ำมันเครื่อง : ผลพวงจากการใช้งานรถยนต์มาอย่างต่อเนื่องนั่นแหละครับ ที่จะทำให้รถของเราเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด ไส้กรองน้ำมันเครื่องก็เป็นส่วนสำคัญที่มีหน้าที่ในการกรองสิ่งสกปรกที่อาจจะหลุดเข้าไปในตัวเครื่องยนต์ของท่านได้ ซึ่งเราควรจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ตั้งแต่รถมีระยะการใช้งาน 5,000 ถึง 10,000 กิโลเมตรเช่นกัน

3. ไส้กรองอากาศรถยนต์ : สำหรับไส้กรองอากาศรถยนต์ สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกรองอากาศที่จะเข้าสู่ห้องโดยสาร และยังเป็นส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องยนต์ด้วยครับ โดยอาการที่เราจะสังเกตเห็นได้ชัดเลยก็คือ เครื่องยนต์มีอัตรากำลังเร่งแผ่วลง, เครื่องยนต์มีอาการสั่น, อัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงเปลืองมากกว่าปกติ และ ควันไอเสียมีสีดำเข้มขณะเร่งเครื่องยนต์

4. ผ้าเบรกรถยนต์ : ในส่วนของผ้าเบรกรถยนต์นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั่นคือความปลอดภัยของการขับขี่รถยนต์เลยก็ว่าได้ ผ้าเบรกรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ มักจะเป็นส่วนเหล็กตรงก้ามเบรกที่เสียดสีกับจานเบรกทำให้จานเบรกเป็นรอย และอาจทำให้จานเบรกแตกหักได้ในอนาคต ดังนั้น ผ้าเบรกรถยนต์ เป็นสิ่งที่ต้องดูแลตามระยะการใช้งาน แนะนำว่าถ้าท่านใช้รถเป็นประจำ ก็ควรที่จะนำรถยนต์ของท่านเข้าเข้าเช็คระยะกับศูนย์บริการและอะไหล่อยู่เสมอ

5. แบตเตอรี่รถยนต์ : ตามอายุการใช้งานแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ละเลยไม่ได้เลยทีเดียว ในระยะ 1-2 ปี ก็ควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้แล้ว เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน และดูแลรักษารถของคุณ 

6. ยางปัดน้ำฝน : วิสัยทัศน์ในการมองเห็นก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับขี่ เมื่อยางปัดน้ำฝนมีปัญหาท่านไม่ควรที่จะละเลยการตรวจเช็ค และควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นให้ดีขึ้น และตัวทำร้ายยางปัดน้ำฝนของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ แสงแดด ที่ส่องลงมาที่กระจก ความร้อนของแดดจะทำให้ตัวยางปัดน้ำฝนนั้นเสื่อมสภาพในการใช้งานได้ รู้แบบนี้แล้วต้องรีบกลับไปเช็ครถของคุณแล้วหล่ะครับ

7. หัวเทียนรถยนต์ : และสุดท้ายหัวเทียนรถยนต์ สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันในส่วนของระบบการสตาร์ทของเครื่องยนต์มีปัญหา หัวเทียนรถยนต์ควรเปลี่ยนทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี 

       ทั้งหมดที่ได้เกริ่นมาข้างบนนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่น้อยเลยทีเดียว 7 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถ เพื่อที่ท่านจะได้ถนอมอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้อยู่กับท่านได้นานขึ้นไปครับ ท่านสามารถเข้ารับบริการต่างๆของเราได้ที่ โตโยต้า กรุงไทย ทั้ง 3 สาขา ดังนี้ สาขารามอินทรา, สาขาเกษตร และ สาขาตลิ่งชัน หรือ Call Center 02-510-9999 กด 9  นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการ ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี, ศูนย์บริการและอะไหล่ ไว้บริการท่านอีกด้วย
โตโยต้า กรุงไทย เรายินดีให้บริการอย่างเต็มความสามารถในทุกสาขา 
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ



ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ และความเคลื่อนไหวของเรา

โตโยต้า กรุงไทย ได้ที่

youtube_logo  facebook icon  line icon  google plus icon  twitter icon


แชร์บทความ