เรื่อง

Innova Zenix

ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ALL-NEW INNOVA ZENIX

Innova Zenix

รับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 36,000 บาท)

  • ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด จากโปรแกรม Toyota Connected Frequent Service Reward (TCFR)
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อม รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

วันที่ 1 มีนาคม 2567 –  7 เมษายน 2567


โปรแกรม Toyota Connected Frequent Service Reward (TCFR)

  • เฉพาะลูกค้าที่ดาวน์โหลดและลงทะเบียนแอพพลิเคชัน T-Connect กดเข้าร่วม Toyota Connected Frequent Service Reward (TCFR)
  • ขอสงวนสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าที่เข้ารับบำรุงรักษารถยนต์ (เช็กระยะมาตรฐานทุก 6 เดือนหรือ 10,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ต่อเนื่องตามเงื่อนไขที่กำหนด ณ ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้าและเปลี่ยนอะไหล่และเคมีภัณฑ์ตามคำแนะนำให้เปลี่ยนในคู่มือการใช้รถยนต์ (Owner Manual) หรือเปลี่ยนโดยประเมินตามสภาพที่ตรวจสอบ
  • ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์ไปแล้ว หากขาดเช็กระยะภายในช่วงขยายระยะรับประกัน จะถือว่าสิทธิ์ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์ในปีถัดไปสิ้นสุดลงไปด้วยทันที
  • ความคุ้มครองในช่วงขยายระยะรับประกันคุณภาพ เป็นไปตามเงื่อนไขการขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์ปีที่ 4-5 หรือ 150,000 กม. โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่คู่มือการขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์

ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

  • สำหรับการเช็กระยะตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กม. หรือภายในระยะ เวลา 5 ปี แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ที่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้าเท่านั้น (เฉพาะค่าแรง ไม่รวมค่าอะไหล่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) ไม่สามารถใช้ร่วมกับแคมเปญอื่นๆ ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้

ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (นับตั้งแต่วันส่งมอบรถให้แก่ลูกค้ารายแรกตามใบส่งมอบรถยนต์ใหม่)

  • การรับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี เฉพาะกรณีการเปลี่ยนเพื่อทดแทนแบตเตอรี่ไฮบริดที่เสียหายอันเนื่องมาจากความบกพร่องของวัสดุ/ชิ้นส่วน หรือการประกอบจากโรงงานภายใต้การใช้งานตามปกติ
    – สำหรับรถ HEV ที่ใช้แบตเตอรี่ไฮบริดชนิด Ni-MH ลูกค้าจะต้องชำระค่าดำเนินการเพื่อใช้สิทธิ์ตามการรับรองนี้ (เฉพาะปีที่ 6-10) จำนวน 1,000 บาทต่อลูก (HV Battery assy) (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และต้องชำระค่าแรงรวมถึงค่าใช้จ่ายของชิ้นส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ในการถอดเปลี่ยนและติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริด
    – สำหรับรถ HEV ที่ใช้แบตเตอรี่ไฮบริดชนิด Li-ion ลูกค้าจะต้องชำระค่าดำเนินการเพื่อใช้สิทธิ์ตามการรับรองนี้ (เฉพาะปีที่ 6-10) จำนวน 1,900 บาท ต่อ ชุดประกอบแหล่งจ่ายไฟไฮบริด (HV Supply Stack) (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) (จำนวนชุดประกอบแหล่งจ่ายไฮบริดของรถยนต์แต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกัน และเป็นการเปลี่ยนเฉพาะชุดประกอบแหล่งจ่ายไฟไฮบริดที่เสียหายเท่านั้น) และต้องชำระค่าแรงรวมถึงค่าใช้จ่ายของชิ้นส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ในการถอดเปลี่ยนและติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริด (มีผลบังคับใช้กับรถยนต์ที่ส่งมอบตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป)
  • การรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี จะรับผิดชอบโดยการซ่อม หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายอันเนื่องมาจากความบกพร่องของวัสดุ /ชิ้นส่วน หรือการประกอบจากโรงงานภายใต้การใช้งานตามปกติ ได้แก่ 1. ชุดกล่องรวมสายไฟแบตเตอรี่ไฮบริด 2. ชุดหม้อลมเบรกพร้อมแม่ปั๊มเบรก 3. ชุดคอมเพรสเซอร์พร้อมมอเตอร์ 4. ECU คอมพิวเตอร์ระบบควบคุมเครื่องยนต์ 5. ชุดอินเวอร์เตอร์พร้อมคอนเวอร์เตอร์ 6. ECU ควบคุมการจัดการกำลัง 7. ชุดเกียร์ไฮบริด 8. ชุดปั๊มน้ำอินเวอร์เตอร์ 9. ชุดโบลเวอร์ระบายความร้อนแบตเตอรี่
  • ทั้งนี้ไม่รวมถึง ความเสียหายอันเนื่องจาก อุบัติเหตุหรือเป็นผลมาจากอุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, การดัดแปลงสภาพ หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อการใช้งานที่มิใช่การใช้งานตามปกติของรถยนต์, การปรับตั้งหรือซ่อม จากศูนย์บริการที่ไม่ใช่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้า และเงื่อนไขอื่นๆ ตามคู่มือการรับประกันคุณภาพรถยนต์ การพิจารณาเกี่ยวกับกรณีความบกพร่อง หรือเสียหาย ตามรายละเอียดข้างต้นถือเป็นสิทธิ์ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
  • สามารถใช้สิทธิ์และติดตั้งได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้นและชิ้นส่วนแบตเตอรี่ไฮบริดที่เสียหายจะถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
  • รถยนต์ซึ่งเป็นรถรับจ้างรถเช่าและ หรือรถสาธารณะไม่ได้รับสิทธิ์ดังที่ระบุข้างต้น

☎️ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

📱Call Center : 02-510-9999

😍รับแคมเปญพิเศษ สำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3UhWUdD

💚Line : @toyotakrungthai (มี@ข้างหน้า) หรือ Click : https://bit.ly/4aFhXfJ

💙Facebook : โตโยต้า กรุงไทย Toyota Krungthai หรือ Click : https://bit.ly/4aN5oiK

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 


หมายเหตุ

  • สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 – 7 เมษายน 2567 และไม่สามารถเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้
  • เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • เฉพาะผู้แทนจำหน่ายฯ ที่เข้าร่วมโครงการ
  • ยกเว้นรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถขาย Fleet

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ ALL-NEW TOYOTA INNOVA ZENIX รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งระดับพรีเมียม

เปิดประสบการณ์ใหม่กับรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งระดับพรีเมียม ALL-NEW TOYOTA INNOVA ZENIX “The Amazing Memories” ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด “อินโนวา ซีนิกซ์” ALL-NEW INNOVA ZENIX รถยนต์อเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง สู่ยนตรกรรมที่ผสานความทันสมัย แข็งแกร่ง ทรงพลัง พร้อมพาทุกคนในครอบครัวร่วมเดินทาง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์อันน่าประทับใจในสไตล์ MPV “Multi-Purpose Vehicle”  สมบูรณ์แบบด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA “Toyota New Global Architecture” พร้อมช่วงล่างใหม่ และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ให้การควบคุมรถที่แม่นยำ ง่ายดาย ทัศนวิสัยรอบคันดีเยี่ยม มั่นใจทุกสภาพถนน ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ใหม่ล่าสุด ตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวล ทรงพลัง กำลังสูงสุด 186 แรงม้า เกียร์ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 21.3 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมความปลอดภัยเหนือระดับด้วย Toyota  Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3

ALL-NEW TOYOTA INNOVA ZENIX ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน จากหัวจรดท้าย จากภายนอก สู่ภายใน ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมฟังก์ชันระดับพรีเมียม เช่น เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารแถวสองปรับไฟฟ้าแบบ “Captain Seat” พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า และโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งแถว 3 พับเรียบเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ และสีพิเศษใหม่ Dark Steel Mica พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยรอบคัน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และอรรถรสในการขับขี่ สร้างความมั่นใจตลอดการเดินทาง    ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง เลือกเป็นเจ้าของได้ 2 รุ่น

รุ่น 2.0 HEV Smart
-เบาะนั่งแถว 2 แบบ Captain Seat และโต๊ะส่วนตัวพับได้

-หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto
-ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
-ไฟหน้า และไฟท้าย LED

-ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์แบบ Kick Activated

-จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว

-เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

-เบาะนั่งแถว 3 แบบพับเรียบ (50:50)

-ระบบเบรกมือไฟฟ้า และหน่วงเบรกอัตโนมัติ

-ระบบเชื่อมต่อ T-Connect

-เครื่องยนต์ 2.0 ไฮบริด ใหม่ M20A-FXS Dual VVT-i

-ระบบเกียร์ E-CVT

-ระบบส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหน้า

-ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า EPS

-ระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง

-ระบบกันสะเทือนล้อหลังแบบ Torsion Beam พร้อมเหล็กกันโคลง

-ระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

-กล้องมองภาพขณะถอยหลัง

-ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

-ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS

-สัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตําแหน่ง

-ถุงลมนิรภัย 6 ตําแหน่ง

-ราคา 1,379,000 บาท

รุ่น 2.0 HEV Premium
อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 HEV Smart
หลังคามูนรูฟแบบ Panoramic

-พิเศษ! ภายในแบบทูโทน สีน้ำตาล Dark Chestnut และสีดำ

-พิเศษ! เบาะนั่งแถว 2 ปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า และโต๊ะส่วนตัวพับได้

-ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift

-กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

-พิเศษ! กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor

ราคา 1,479,000 บาท                       

มีทั้งหมด 2 รุ่น 4 สี
สีดำ Dark Steel Mica                           
สีขาว Platinum White Pearl*
สีดำ Attitude Black Mica                             
สีเงิน Silver Metallic