ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว รวบรวมทุกข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง social media จากเพจ โตโยต้า กรุงไทย Toyota Krungthai ให้ทุกโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ พร้อมเสิร์ฟถึงมือลูกค้า

Toyota Yaris ATIV ผ่านการรับรองแล้ว พร้อมจำหน่ายและส่งมอบ

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศเปิดรับจองและส่งมอบ Yaris ATIV อย่างเป็นทางการ

โดยโตโยต้า กรุงไทย พร้อมเปิดรับจองและส่งมอบ Yaris ATIV 

บริษัทฯ ขอเรียนให้ลูกค้าทราบว่า รถยนต์ Yaris ATIV ได้ผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานการชนด้านข้าง (UN-R95) อย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการรับจองและเริ่มดำเนินการส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าได้ตามปกติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอบคุณลูกค้าทุกท่านและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์โตโยต้า เสมอมา

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

ขับรถตอนฝนตก ถนนลื่นอย่างไรให้ปลอดภัยตลอดเส้นทาง

การขับรถในขณะฝนตกต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นกว่าการขับรถปกติ ด้วยวิสัยทัศน์การมองเห็นที่ยากขึ้น ถนนลื่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในหน้าฝนอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น จึงขอแชร์เทคนิคการขับรถเมื่อเจอฝนตกถนนลื่น เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถขณะฝนตก ดังนี้

เทคนิคการขับรถเมื่อเจอฝนตก ถนนลื่น

  1. เปิดไฟหน้า-ไฟท้าย

      การขับรถตอนฝนตกบนท้องถนนร่วมกับคันอื่นๆ จำเป็นต้องเปิดไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อให้รถที่ตามมาข้างหลังเห็นเราชัดขึ้น ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

      – การเปิดไฟหน้า ควรใช้สัญญาณไฟปกติ หากมีไฟตัดหมอก สามารถเปิดได้ แต่ไม่ควรใช้ไฟฉุกเฉิน หรือที่เรียกว่า ไฟกระพริบ เพราะจะทำให้รถคันที่ตามมาไม่รู้ว่ารถของเรากำลังจอดหรือขับอยู่บนถนน อาจทำให้เกิดการชนท้ายได้

      – ไม่ควรเปิดไฟหน้าสูง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาโดนไฟส่องแยงตา ทำให้ตาพล่ามัวมองถนนได้ไม่ชัด อาจเกิดอุบัติเหตุได้

  1. การเปิดที่ปัดน้ำฝน

      ที่ปัดน้ำฝนจำเป็นอย่างมาก ช่วยให้เรามองเห็นเส้นทางบนถนนในขณะที่กำลังขับรถฝ่าฝน ซึ่งถ้าฝนตกปอยๆ ไม่หนัก อาจเลือกให้ที่ปัดน้ำฝนแบบครั้งเดียว หรือปัดสองครั้งหยุด แต่ถ้าฝนตกหนัก ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นให้ชัดเจนมากขึ้น

  1. รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า

      ฝนที่ตกจะไปชะล้างคราบดิน โคลน หรือคราบน้ำมันบนถนน เป็นสาเหตุทำให้ถนนลื่น จึงควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าระยะห่างปกติในการขับขี่เป็น 2 เท่า เพื่อให้ระยะเบรกของเราสามารถหยุดรถได้ทัน หากเกิดเหตุสุดวิสัยขณะขับรถ เพื่อความปลอดภัย

  1. ความเร็วในการขับขี่

      เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการขับรถในขณะฝนตก แนะนำให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสม ซึ่งความเร็วในระดับที่ปลอดภัยที่สุดคือ 40-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะเป็นความเร็วที่เราจะสามารถควบคุมรถไม่ให้ลื่นไถลได้

  1. ป้องกันการเกิดฝ้าที่กระจกรถ

      สาเหตุหนึ่งที่กวนใจขณะขับรถคือ การเกิดฝ้าที่กระจกเพราะทำให้บดบังทัศนียภาพการมองเห็นถนน มักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิเย็นจัด และการขับรถตอนฝนตกจะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นจึงต้องรู้วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดฝ้าขณะขับรถตอนฝนตก ก่อนอื่นต้องสังเกตุว่าเกิดฝ้าขึ้นที่ภายนอกหรือภายในกระจกรถ คือหากอากาศภายในรถเย็นกว่าอากาศภายนอกรถ จะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกด้านนอก  แต่ถ้าหากภายนอกรถเย็นกว่าอากาศภายในรถ จะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกด้านใน  ดังนั้นจึงควรที่จะรักษาอุณหภูมิภายในและภายนอกรถให้เท่ากัน เพื่อไม่ให้เกิดฝ้ากระจก มีวิธีแก้ไขดังนี้

    – ปรับทิศทางแอร์ ไม่ให้หันไปโดนกระจกรถ

    – ปรับอุณหภูมิแอร์ภายในรถ เพื่อให้อากาศภายในและภายนอกรถเท่ากัน

    – ลดกระจกลงเล็กน้อย เพื่อให้อากาศเกิดการถ่ายเททำให้ฝ้าจางลง

    – ใช้ฝ้าหรือที่ปัดน้ำฝนเช็ด เพื่อลดฝ้าที่เกิดขึ้น    

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือ การหมั่นตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยตรวจสอบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ปัดน้ำฝนให้ใช้ปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาด ไม่มีรอยฝ้า หรือรอยขูดขีดบนกระจก รวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

5 เทคนิค ขับรถให้ประหยัดน้ำมัน ลดค่าใช้จ่าย

หลายคนที่ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ทุกวัน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเรื่องค่าน้ำมันรถได้ ราคาน้ำมันก็มีการปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เราสามารถประหยัดน้ำมันได้ด้วยตัวเอง เพียงนำเทคนิคการขับรถนี้ไปใช้ 

5 เทคนิคการขับรถช่วยประหยัดน้ำมัน

  1. ขับรถด้วยความเร็ว 80-90 กม./ชม. หากเราไม่ได้เร่งรีบในการเดินทาง ก็ไม่จำเป็นต้องขับเร็ว เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น การขับรถให้ความเร็วอยู่ที่ 80-90 กม./ชม. ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการขับด้วยความเร็ว 95-100 กม./ชม
  1. ไม่บรรทุกของหนักเกินจำเป็น การบรรทุกของหนัก 10 กก. ในระยะทาง 25 กม. ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้ 40 ซีซี. นอกจากนี้การนำสัมภาระขึ้นไปผูกวางไว้บนหลังคา ส่งผลให้เพิ่มการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นการขับต้านลมขณะรถวิ่งนั่นเอง
  1. วางแผนการเดินทาง ควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนการเดินทาง จะช่วยให้ขับรถถึงที่หมายเร็วขึ้น เป็นเทคนิคช่วยประหยัดน้ำมันอีกทางหนึ่ง รวมถึงช่วยให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด เพราะรถติดเพียงครึ่งชั่วโมง สามารถสิ้นเปลืองน้ำมันได้มากถึง 750 ซีซี.
  1. ควรเติมลมยางให้ตรงตามมาตรฐาน ตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ควรปล่อยให้ความดันลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน เพราะทุก 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ หากลมยางแข็งเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้
  1. สตาร์ทเครื่องไม่เปิดแอร์ – ปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย 2-3 นาที หลีกเลี่ยงการเปิดแอร์และเครื่องเสียง พร้อมกันขณะสตาร์ทเครื่อง เพราะเท่ากับเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 10 เปอร์เซ็นต์  และการปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย 2-3 นาทีก็จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อีก 30 ซีซี.ด้วย

หากนำเทคนิคการขับรถให้ประหยัดน้ำมันนี้ไปใช้ จะพบว่าสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายการสิ้นเปลืองน้ำมันได้จริง ซึ่งจำเป็นมากในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

5 เทคนิคง่ายๆช่วยดูแลถนอมช่วงล่างให้หายห่วง

 

ช่วงล่างของรถทำหน้าที่รองรับน้ำหนักการบรรทุก และแรงสั่นสะเทือนเวลาขับขี่ รวมถึงเป็นตัวขับเคลื่อนในหลายๆอุปกรณ์ ให้รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การบำรุงรักษาช่วงล่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ขอแนะนำ 5 เทคนิคง่ายๆที่จะช่วยถนอมช่วงล่างของรถยนต์

  1. ในขณะขับขี่ให้สังเกตุพื้นผิวถนน หากมีความเสียหาย มีหลุม ขรุขระ ควรชะลอความเร็วในการขับขี่ ไม่ควรใช้ความเร็วเกินไป
  2. ไม่บรรทุกของหนักเกินจำเป็น ส่งผลต่อช่วงล่างและกลไกอื่นๆของรถ 
  3. หากต้องขับผ่านเส้นทางที่มีลูกระนาด หรือถนนลูกรัง หากรถบรรทุกหนัก ควรเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วก่อนที่จะถึงลูกระนาด และปล่อยเบรกขณะขึ้นลูกระนาด เพื่อลดแรงกระแทกต่อช่วงล่าง
  4. ควรเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานเหมาะสมกับการใช้งาน หากลมยางแข็งเกินไปช่วงล่างจะรับแรงกระแทกเยอะ แต่หากลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้ระบบการบังคับเลี้ยวทำงานหนักกว่าปกติ
  5. เข้าตรวจเช็กสภาพช่วงล่างตามระยะที่แนะนำ เพื่อให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

หากปฏิบัติตามคำแนะนำก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานช่วงล่างได้ หากพบความผิดปกติเวลาขับขี่ เช่น มีเสียงดังผิดปกติ รถไม่นิ่ง การควบคุมพวงมาลัยไม่เหมือนเดิม เป็นสัญญาณบอกว่าช่วงล่างอาจมีปัญหา ให้รีบนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการทันที

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

Call Center : 02-510-9999

นัดหมายเข้าศูนย์บริการ Click : https://bit.ly/3PDOLgp

รับแคมเปญสำหรับซื้อรถใหม่ Click : https://bit.ly/3VB1VhO

Line @toyotakrungthai Click : https://lin.ee/i8Nhjbj

Facebook Toyota Krungthai Click : https://bit.ly/4aN5oiK

HILUX REVO-D พร้อมชุดแต่ง MODELLISTA

HILUXREVO-Dพร้อมชุดแต่งMODELLISTA

Hilux Revo-D มาพร้อมพร้อมชุดแต่ง MODELLISTA เพียงเพิ่มเงิน 59,500 บาท มาพร้อมการรับประกันสูงสุดถึง 36 เดือน หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน รับประกันโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด

Modellista

ชุดแต่ง MODELLISTA สำหรับ Hilux Revo-D ประกอบด้วย
-โลโก้ MODELLISTA 

-สเกิร์ตกันชนหน้า
-ล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20


Modellista

ชุดแต่ง MODELLISTAสามารถติดตั้งได้กับ HILUX REVO-D PRERUNNER & 4×4 HILUX REVO-D ROCCO และ HILUX REVO ROCCO SMART CAB

ชุดแต่งMODELLISTA พัฒนาโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย จำกัด และจัดจำหน่ายโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด

Modellista