เรื่อง

จานเบรกขึ้นสนิม มีสาเหตุจากอะไร เป็นอันตรายหรือไม่?

ปัญหาจานเบรกขึ้นสนิม เกิดจากน้ำหรือความชื้น มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งหลังจากล้างรถหรือจอดรถไว้ในวันฝนตก ทำให้มีน้ำจับที่ผิวของจานเบรก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติไม่ส่งผลต่อการใช้งาน ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้จานเบรกเสื่อมหรือหมดอายุการใช้งานและจะทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด 

สนิมที่เกิดขึ้นเรียกว่าสนิมแดง มีการกัดกร่อนน้อยมาก จานเบรกทำจากเหล็กหนาดังนั้นการกัดกร่อนจากเบรกแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย

วิธีแก้ปัญหาจานเบรกขึ้นสนิมง่ายๆเลยคือขับรถบ่อยๆ การใช้งานอยู่เสมอก็เหมือนการขัดสนิมออกจากจานเบรกไปในตัว ทุกครั้งที่มีการเหยียบเบรก ผ้าเบรกจะทำหน้าที่กำจัดสนิมเหล่านี้ออกไป ทำให้จานเบรกกลับมาสะอาด แรกๆอาจมีเสียงดังเล็กน้อย สักพักก็จะหายไป

ที่สำคัญคือ ไม่ควรนำสารหรือสเปรย์หล่อลื่นใดๆ มาฉีดบนจานเบรกเด็ดขาด จะทำให้เบรกลื่น ประสิทธิภาพการเบรกลดลง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

ยางมีเสียงดังเวลาวิ่ง อาจเกิดได้หลายสาเหตุ ดังนี้ เกิดจากลักษณะโครงสร้าง และดอกยาง รวมถึงแรงดันลมยางก็มีส่วน เช่นยางชนิดออฟโรดหน้ากว้าง และดอกยางลึก เมื่อนำมาวิ่งบนถนนแห้งอาจเกิดเสียงจากดอกยางที่อัดอากาศกับพื้น ดังนั้นเพื่อเป็นการลดเสียงดังของยางมากกว่าปกติ ที่อาจเกิดขึ้นควรมั่นตรวจเช็กลมยางรถ และ ตรวจสอบศูนย์ตามค่าที่กำหนด (มาตรฐานเติมลมยางที่โตโยต้ากำหนดไว้ สามารถตรวจสอบได้จากสติ๊กเกอร์บริเวณขอบประตูด้านคนขับ และยางรถที่ใช้มานานเสียงดังเพิ่มมากขึ้น)

อย่างไรก็ตาม ทุกท่านสามารถนำรถรับการบริการตรวจเช็ก ที่ศูนย์บริการโตโยต้า กรุงไทย ทุกสาขา โทร: 02-510-9999 Facebook: @toyotakrungthai Line ID: @krungthaiservice หรือ นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าได้ที่นี่ คลิก

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS ในรถยนต์โตโยต้า

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS ในรถยนต์โตโยต้า

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS ในรถยนต์โตโยต้า (เฉพาะรุ่นที่มี)

ระบบกุญแจ Immobilizer ออกแบบมาเพื่อป้องกันการสตาร์ทรถด้วยกุญแจปลอม เพื่อเสริมการป้องกันรถถูกโจรกรรม 2 ชั้นคือ

ชั้นแรก : ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TSD จะส่งสัญญาณเตือน ถ้ามีผู้พยายามบุกรุกเข้าภายในรถ

ชั้นที่สอง : ถ้าผ่านชั้นแรกเข้าไปได้ระบบ Immobilizer จะยับยั้งการสตาร์ทเครื่อง โดยตรวจสอบรหัสลูกกุญแจที่ใช้สตาร์ทว่าตรงกับที่ตั้งค่าไว้เดิมหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ หรือรหัสไม่ตรงจะสตาร์ทเครื่องไม่ได้

ข้อควรระวัง
• อย่าให้กุญแจหลักกับบุคคลอื่นเพราะสามารถนำไปทำซ้ำได้ ถ้าจำเป็นควรให้กุญแจสำรองแทน

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS ในรถยนต์โตโยต้า

หมายเหตุ ในแป้นกุญแจมีแผ่นชิพสัญญาณรหัสสตาร์ทเครื่องอยู่ รหัสตรงสตาร์ทได้, รหัสไม่ตรงสตาร์ทไม่ได้

ข้อควรทราบสำหรับกุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS

สตาร์ทรถไม่ติด หรือติดแล้วดับ

  • มีห่วงกุญแจหรือโลหะอื่นพาดหรือทับบนกุญแจ ถ้ามีให้เอาออกแล้วลองสตาร์ทใหม่
  • จดหมายเลขกุญแจเก็บไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ในการทำกุญแจใหม่
  • กุญแจก็อปปี้ที่ไม่ได้บันทึกรหัสจะสตาร์ทเครื่องไม่ได้
  • กุญแจหาย หรือต้องการทำเพิ่ม กรุณาติดต่อศูนย์บริการโตโยต้าพร้อมหมายเลขกุญแจ และกุญแจที่มีอยู่ทุกลูก

รีโมทอาจใช้การไม่ดี / มีระยะทำการผิดไปจากปกติถ้า

  • อยู่ใกล้แหล่งคลื่นสัญญาณรถกวนเช่น สนามบิน สถานีวิทยุ เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาโทรศัพท์
  • แบตเตอรี่เสื่อม (ไฟรีโมทจะหรี่มัว)
  • มีการติดฟิล์มกรองแสงบางชนิดที่มีส่วนผสมของโลหะหักเหคลื่น

การตั้งเสียง / ไฟกระพริบตอบรับของรีโมท

  • สามารถตั้งเสียงสัญญาณตอบรับ / ไฟกระพริบตอบรับการล็อค – ปลดล็อคประตูได้
  • สามารถตั้งการล็อค – ปลดล็อคประตูอัตโนมัติได้

หมายเหตุ: รายละเอียดกรุณาศึกษาจากในคู่มือรถ ในหมวดกุญแจ และประตูหัวข้อยิ่ยรีโมทคอนโทรล

เปลี่ยนยางที่ศูนย์โตโยต้า กรุงไทย ได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

เปลี่ยนยางที่ศูนย์โตโยต้า กรุงไทย ได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เปลี่ยนยางที่ศูนย์โตโยต้า กรุงไทย ได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เมื่อ เปลี่ยนยางที่ศูนย์โตโยต้า กรุงไทย วันนี้ รับสิทธิประโยชน์มากมาย ดังนี้

ที่โตโยต้า กรุงไทย เราคัดสรรยางคุณภาพ ที่เหมาะสมกับรถยนต์โตโยต้าของท่าน

ผ่อนยาง 0% พร้อมฟรีค่าแรง

มั่นใจ กับคุณภาพและบริการ พร้อมรับประกันงานบริการ 1 ปี หรือ 20,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

มั่นใจ ดูแลรถคุณด้วยทีมช่างผู้ชำนาญการผ่านการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานจากโตโยต้า

สะดวกสบาย ประหยัดเวลาเดินทาง กับศูนย์บริการมาตรฐาน ทั้ง 3 สาขาดังนี้ สำนักงานใหญ่ รามอินทรา (กม.9) สาขาเกษตรฯ-พหลโยธิน และสาขาตลิ่งชัน พร้อมห้องรับรองแสนสะดวกสบาย

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่กำลังจะเสื่อม

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่า แบตเตอรี่ กำลังจะเสื่อม

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่กำลังจะเสื่อม

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่กำลังจะเสื่อม

แบตเตอรี่ถือเป็นอะไหร่ที่มีความจำเป็นหรือสำคัญอีกชนิดหนึ่งของรถยนต์เราเลยนะครับ แบตเตอรี่จะเสื่อมลงตามเวลาซึ่งเกิดจากการชาร์จและจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

แบตเตอรี่ทำงานในขณะที่

  1. สตาร์ทเครื่องยนต์
  2. เปิดเครื่องปรับอากาศ
  3. เปิดไฟหน้ารถ หรืออุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม
  4. เปิดเครื่องเสียง หรือดัดแปลงตกแต่งอุปกรณ์เครื่องเสียงเพิ่มเติมจากโรงงานและคู่มือ หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ

อาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่กำลังจะเสื่อม

  1. รถสตาร์ทติดยาก
  2. ไฟหน้าไม่สว่างเท่าเดิม
  3. กระจกไฟฟ้าเปิด-ปิดช้าลง
  4. ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย

แบตเตอรี่เสื่อมมาจากหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. แบตเตอรี่จะเสื่อมลงตามเวลาซึ่งเกิดจากการชาร์จและจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
  2. แบตเตอรี่รถยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
  3. แบตเตอรี่จะทำงานหนักเป็นพิเศษเมื่อ
    • เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ
    • ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน
    • ใช้รถในช่วงการจราจรติดขัดเป็นประจำ
    • ขับรถกลางคืนเป็นประจำ
    • ใช้รถน้อย หรือใช้แค่ระยะทางสั้นๆ

เมื่อไหร่ที่แบตเตอรี่ชำรุด หรือเสื่อมสภาพแล้วนั้น หากผู้ใช้รถยังไม่รีบเปลี่ยนหรือไม่ดูแลเอาใจใสให้ดี ก็จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์หรือชิ้นส่วนอะไหล่อื่นๆภายในตัวรถเราให้เสียหายไปด้วย อาทิเช่น ไดสตาร์ท, ปั๊มติ๊ก (ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง) ไดชาร์จ เป็นต้น และรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานานๆโดยไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เราเสื่อมได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วเราควรดูแลเอาใจใส่กับแบตเตอรี่นะครับ

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ง่ายๆ โดยผู้ใช้รถยนต์ควรหมั่นดูระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ไม่เติมมากจนล้น หรอ น้อยจนเกินไป แบตเตอรี่ทุกรุ่น (ที่ใช้น้ำกลั่น) ก็จะมีระดับให้เป็นจุดสังเกตว่าควรจะเติมเท่าไหร่อยู่แล้ว เป็นวิธีดูและรักษาเบื้องต้นง่ายๆนะครับ ที่ผู้ใช้รถหรือคุณผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยความปรารถณาดีจาก ศูนย์โตโยต้า กรุงไทย

อ่านบทความดีๆมีสาระอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.toyotakrungthai.com/blog/ นะครับ